เพิ่มรูป แก้ไข View : 14,516

เที่ยวตามทางหลวง 118 เชียงใหม่ ดอยสะเก็ด เวียงป่าเป้า

เที่ยวตามทางหลวง 118 เชียงใหม่ ดอยสะเก็ด เวียงป่าเป้า

การเดินทางเส้นทางหลวงหมายเลข 118 ถ้าไม่แวะที่ไหนเลย ใช้เวลา ประมาณ 3 ชม.เศษ เป็นเส้นทางที่สั้นที่สุด จากเชียงใหม่-เชียงราย ผ่านอำเภอสำคัญๆ อยาง อ.ดอยสะเก็ด อ.เวียงป่าเป้า(เชียงราย) อ.แม่ลา อ.แม่สรวย สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ได้อยู่ริมทางหรือใช้เวลาระยะทางขับรถไกลเกินกว่า 10 กม. จะไม่ขอปักหมุดไว้นะครับ ตัวอย่างเช่น ไม่แวะ ดอยช้าง ดอยวาวี (น่าเสียดาย) ก็ตาม เพราะเวลาไม่เอื้ออำนวย มิฉะนั้นจะไม่ถึงเชียงใหม่ก่อนค่ำ ต้องออกจากตัวเมืองเชียงใหม่แต่เช้าตรู่ เริ่มเดินทางทางที่แรก

 

1

เขื่อนแม่กวงอุดมธารา

เขื่อนแม่กวง 

เป็นเขื่อนดินถมบดอัดแน่น สูง 68 เมตร สันเขื่อนยาว 610 เมตร สร้างปิดกั้นลำน้ำแม่กวง นอกจากนั้นยังได้ก่อสร้างเขื่อนดินปิดช่องเขาขาดด้านฝั่งขวาสูง สามารถเก็บกักน้ำในอ่างด้านเหนือเขื่อนได้ประมาณ 263 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 186 ล้านลูกบาศก์เมตร ในยามเช้าจะมีเมฆหมอกสีขาวคล้ายปุยฝ้ายลอยตัวปกคลุมทั่วท้องน้ำ โอบล้อมด้วยทิวเขาและป่าเขียวขจี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของคนในท้องถิ่นและพื้นที่ใกล้เคียง

 

 2

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งขึ้นจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้พิจารณาจัดตั้งศูนย์ฯขึ้นบริเวณขุนแม่กวง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ของพื้นที่ของโครงการประมาณ 8,500 ไร่ โดยมีพระราชประสงค์ให้เป็นศูนย์การในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย เพื่อพัฒนาในด้านต่างๆ กับสภาพพื้นที่ภาคเหนือและเผยแพร่แก่ราษฎร ให้สามารถนำไปปฏิบัติได้ด้วยตนเอง สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

 

3

อุทยานแห่งชาติขุนแจ

อุทยานแห่งชาติขุนแจ

อุทยานแห่งชาติขุนแจเป็นภูเขาสูงและที่ราบสลับเนินเขา โดยสถานที่สูงที่สุดในอุทยานคือดอยลังกาหลวงอีกทั้งยังเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำลาวที่ไหลลงสู่แม่น้ำกกอีกด้วย ในอุทยานส่วนใหญ่เป็นหุบเหว มีความอุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่าที่พบเห็นได้ในอุธยาน มีหลายชนิด ชะมด หมูป่า เก้ง เม่น กระรอกหลายชนิด หมี ลิงลม ชะนีธรรมดา แมวป่า เลียงผา นกต่างๆ สามารถเห็นสัตว์ป่าได้ตามสภาพถิ่นที่อยู่อาศัยและช่วงเวลาระหว่างวันในหุบเขาริมธารและป่าชุ่มชื่นเป็นบริเวณที่มีพืชพันธุ์เขียวชอุ่ม

 

4

น้ำพุร้อนเวียงปาเป้า

บ่อน้ำพุร้อน

เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ ได้ชื่อว่าเป็นบ่อน้ำร้อนที่สูงสุด มีความสูงถึง 99 เมตรเลยทีเดียวและสวยที่สุดในประเทศไทย บริการให้แช่เท้าฟรี ฟิชสปา บ่อสำหรับต้มไข่ มีร้านค้าร้านจำหน่ายสินค้า OTOP และของที่ระลึกต่างๆ อีกทั้งยังมีพระธาตุเก่าแก่ อายุราวๆ 700ปี ให้ได้ไปแวะเวียนกราบไหว้ ในอดีตสมัยรัชกาลที่ 6 พระองค์ทรงเสด็จมาประทับค้างแรมที่บ่อน้ำร้อนแห่งนี้อีกด้วย

 

5

เครื่องเคลือบดินเปา เวียงกาหลง 

 เครื่องดินเผา เวียงกาหลง

เป็นแหล่งกำเนิดเครื่องเคลือบดินเผา ที่มอายุนับพันปีและใหญ่ที่สุดของล้านนา มีเตาเผาโบราณ มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ลวดลายเป็นเอกลักษณ์ของเวียงกาหลง เครื่องปั้นดินเผาเวียงกาหลงเป็นเครื่องใช้สำหรับชรชั้นสูง ที่บ่งบอกถึงรากฐานความยาวนานของวัฒนธรรม ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติไม่มีสารเคมี ปัจจุบันยังคงเปิดให้เยี่ยมชมและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาอีกด้วย สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

 

 6

เวียงกาหลง 

เวียงกาหลง

เป็นแหล่งวัฒนธรรมและแหล่งโบราณคดี มีการค้นพบเตาและชิ้นส่วนภาชนะต่างๆ อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเวียงป่าเป้าประมาณ 16 กิโลเมตร ทางด้านขวาเป็นโรงงานเครื่องปั้นดินเผา ขึ้นชื่อในเรื่องเครื่องเคลือบดินเผาแบบเวียงกาหลง ลวดลายมีเอกลักษณ์แสดงถึงเรื่องราวของพระพุทธเจ้า ภายในวัดมีสถานที่ปฎิบัติธรรมเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน สามารถไปท่องเที่ยวได้โดยใช้เส้นทางแม่สรวย-เวียงป่าเป้า-ดอยสะเก็ด บรรยากาศดีร่มรื่น 

 

 7

 น้ำตกขุนกรณ์

น้ำตกขุนกรณ์

น้ำตกที่มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า น้ำตกตาดหมอก เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของเชียงราย มีความสูงถึง 70 เมตร มีความร่มรื่น ตามทางขึ้นไปน้ำตกจะพบพันธุ์ไม้ต่างๆ ขึ้นให้เห็นอยู่มากมาย เช่น ต้นไม้ขนาดใหญ่ กล้วยไม้ และเฟิร์น มีเส้นทางเดินเท้าเพื่อศึกษาธรรมขาติตลอดเส้นทาง มีกล้วยไม้หายากหลากหลายชนิด มีสถานที่สำหรับกางเต้นท์นอนค้าง และร้านค้าร้านและอาหารบริการนักท่องเที่ยวตั้งแต่ช่วงเช้าจรดเย็น

 

8

สิงห์ปาร์ค

สิงห์ปาร์ค

ชื่อเดิมคือ ไร่บุญรอด มีพื้นที่กว้างใหญ่โดยครอบคลุมถึง 4 ตำบล มีพื้นที่กว่า 8,000 ไร่ มีแทร็คจักรยานแบบมาตราฐานและสวยที่สุดในเอเชีย สำหรับนักปั่นจักรยาน แวะชมมะเฟือง และมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย มีผลิตภัณฑ์ของไร่บุญรอดจำหน่าย มีไร่ชาอู่หลงให้ได้ชมและมีจำหน่าย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมถ่ายรูปกับวิวสวยๆ มีร้านอาหารไว้บริการอีกด้วย เปิดตั้งแต่ 9.30 , 12.30, 17.00 น. ค่าเข้าชมคนละ 50 บาท

 

9

วัดร่องขุน 

วัดร่องขุน

ในการสร้างวัดร่องขุน อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ มีแรงบันดาลใจอยู่ 3 ประการ คือ เพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งอาจารย์ตั้งใจถวายชีวิตและช่วงเวลาที่ดีที่สุดของตนสร้างงานพุทธศิลป์ เพื่อเป็นงานประจำรัชกาลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จุดเด่นของวัดนี้คือ โบสถ์ ที่มีแรงบันดาลใจจากเมืองสวรรค์ เป็นวิมานบนดินที่สามารถสัมผัสได้ เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความสวยงามตลอดทั้งปี ตั้งแต่เวลา 06.30-18.30 เปิดทุกวัน

 

 

ที่เที่ยวแนะนำ

-- ดูเพิ่ม --