เพิ่มรูป แก้ไข View : 7,718

สมุทรสงคราม เมืองแห่งสายน้ำสามเวลา

สมุทรสงคราม เมืองแห่งสายน้ำสามเวลา

สมุทรสงคราม เมืองแห่งสายน้ำสามเวลา

1.วัดบ้านแหลม 

            วัดบ้านแหลม หรือวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ตั้งอยู่ในตัวเมือง เดิมชื่อวัดศรีจำปา เป็นวัดสำคัญที่สุดของจังหวัดสมุทรสงคราม ตำนานเล่าว่า ในปี พ.ศ. 2307ชาวบ้านแหลมในเขตเมืองเพชรบุรีอพยพหนีพม่ามาตั้งบ้านเรือน อยู่บริเวณตำบล แม่กลอง เหนือวัดศรีจำปา และเรียกหมู่บ้านนี้ว่า "บ้านแหลม"  พระรูปหล่อหลวงพ่อบ้านแหลม วัดเพชรสมุทร เป็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร เป็นพระประจำวันเกิด วันพุธเวลากลางวัน หลวงพ่อบ้านแหลมเป็นพระที่สร้างในสมัยเดียวกันกับหลวงพ่อโสธร กับหลวงพ่อโตวัดบางพลีใหญ่ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรเช่นเดียวกัน

วัดบ้านแหลม

2. ดอนหอยหลอด

           เป็นสันดอนตั้งอยู่ปากแม่น้ำแม่กลอง ที่เกิดจากการตกตะกอนของดินปนทราย หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "ทรายขี้เป็ด" ดอนหอยหลอดเป็นสถานที่ที่มีลักษณะเด่นที่หาพบได้ยากในประเทศไทย โดยเกิดจากการทับถมของตะกอนจากแม่น้ำ และตะกอนจากทะเลบริเวณปากแม่น้ำแม่กลอง เกิดเป็นสันดอนยื่นออกไปในทะเล พื้นโคลนเลนในบริเวณดอนหอยหลอดเป็นแหล่งอาศัยของหอยหลอด จำนวนมาก จัดว่าเป็นพื้นที่ที่พบหอยหลอดได้มากที่สุดในบริเวณชายฝั่งอ่าวไทยทั้งหมด

3.ตลาดร่มหุบ

          ตลาดร่มหุบ หรือตลาดแม่กลอง แต่ชาวบ้านที่นี่มักจะเรียกกันว่า ‘ตลาดเสี่ยงตาย’ อยู่ในตัวตลาดเทศบาลจังหวัดสมุทรสงคราม มีเอกลักษณ์ที่แปลกไม่เหมือนกับตลาดแห่งไหนคือ จะมีรถไฟวิ่งผ่ากลางตลาด  เป็นตลาดที่ขายของริมทางรถไฟ โดยมีเนื้อที่แคบๆ เมื่อรถไฟมาพ่อค้า-แม่ขายจะรู้กันว่าถึงเวลาที่จะต้องยกของ เก็บของ พอรถไฟผ่านไป หันกลับมาอีกทีอย่างกับเล่นมายากล ของทุกอย่างออกมาตั้งอยู่ที่เดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ตลาดร่มหุบ

 4. อุทยาน ร. 2

          อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (อุทยาน ร.2)เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเป็นการสนอง พระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้พระราชทานศิลปวัฒนธรรมอันงดงามไว้เป็นมรดกแก่ชาติ บริเวณที่ก่อสร้างอุทยานพระบรมราชานุสรณ์นี้ พระราชสมุทรเมธี เจ้าอาวาสวัดอัมพวันเจติยารามเป็นผู้น้อมเกล้าฯ ถวาย มีทั้งหมด 11 ไร่ ซึ่งที่บริเวณนี้มีความสำคัญเพราะเป็นที่พระราชสมภพของรัชกาล ที่ 2

อุทยาน ร. 2

5. วัดเขายี่สาร

           เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทสี่รอยซึ่งเป็นองค์ประธานของวัด พระมณฑปและบานประตูสลักไม้ศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลายนับเป็นงานประณีตศิลป์ชั้นสูง พระอุโบสถบูรณะใหม่ประดิษฐ์ลวดลายปูนปั้นด้วยฝีมือช่างเมืองเพชร ภายในมีภาพจิตรกรรมฝีมือเดิม บานหน้าต่างเป็นรูปบุคคลในพงศาวดารจีน ถ้ำพระนอนประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ซึ่งมีนิ้วพระบาทเก้านิ้ว มีศาลประดิษฐานหลวงพ่อปู่ศรีราชามีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านทั่วไป มีงานนมัสการหลวงพ่อปู่กลางเดือนอ้ายของทุกปี

วัดเขายี่สาร

6. ตลาดน้ำอัมพวา

         เป็นตลาดน้ำที่คนให้ความนิยมเป็นจำนวนมาก      เป็นตลาดที่แปลกกว่าใครเพื่อนคือที่อื่นเขาเปิดเช้าตรู่ไปวายตอนบ่ายๆ ที่นี่เปิดบ่ายๆ ไปวายตอนดึก แต่มีมนต์เสน่ห์อันงดงามอย่างคาดไม่ถึง    เป็นตลาดน้ำยามเย็นที่มีบรรยากาศที่ดี  เปิดวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เหมาะสำหรับการมาเที่ยวในวันหยุดเพื่อมาหาอาหารอร่อยๆ และมาสัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืน

ตลาดน้ำอัมพวา

7.ตลาดน้ำท่าคา

     เป็นตลาดน้ำอีกที่หนึ่งซึ่งมีคนรู้จักไม่มากนัก  ในวันขึ้นหรือแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ 12 ค่ำ และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00- 12.00 น. จะมีตลาดนัดที่ชาวบ้านได้พายเรือนำอาหาร ผัก และผลไม้ท้องถิ่นมาขาย มีบริการให้เช่าเรือพาย สำหรับเที่ยวหมู่บ้านและสวนผลไม้รอบ ๆ ตลาดน้ำท่าคา

ตลาดน้ำท่าคา

8.บ้านครูเอื้อ

           บ้านครูเอื้อ ตั้งอยู่ที่ตลาดน้ำอัมพวา เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการประวัติผลงานของครูเอื้อ ศูนย์รวมข้อมูลสำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจค้นคว้าเรื่องราวของเพลงสุนทราภรณ์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันโดยมีเป้าหมายให้ผู้ที่มาเที่ยวได้รู้ถึงประวัติผลงานของครูเอื้อเพื่อเป็นการอนุรักษ์ ศิลปะการดนตรีของไทย

บ้านครูเอื้อ

 

9. วัดจุฬามณี

             เ ป็นวัดโบราณริมฝั่งคลองอัมพวาต่อเนื่องกับคลองผีหลอก วัดนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททองภายในพระอุโบสถวัดจุฬามณี เข้ามาภายในก็ต้องตะลึงกับความสวยงามตระการตา ลวดลายภาพเขียนที่พระท่านบอกว่าเป็นจิตรกรหญิงอิสระวาดแล้วให้ผู้ช่วยลงสี ลวดลายแบบนี้มีตลอดทั้งหลัง ใช้เวลาวาดนานถึง 6 ปี

วัดจุฬามณี

 

10. ค่ายบางกุ้ง

            เป็นค่ายทหารเรือไทยที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่าย ที่ค่ายบางกุ้ง เรียกว่า "ค่ายบางกุ้ง”   มีสิ่งที่น่าสนใจคือ    โบสถ์ปรกโพธิ์ เป็นอุโบสถหลังเดิมที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี จะถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ทั้งโพ ไทร ไกร และกร่างมอง จากภายนอกคิดว่าเป็นกลุ่มต้นไม้ใหญ่มากกว่ามีโบสถ์อยู่ข้างใน รากไม้เหล่านี้ช่วยให้โบสถ์คงรูปอยู่ได้ ทั้งยังให้้ความขรึมขลัง อีกด้วย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐาน ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อโบสถ์น้อย (หลวงพ่อนิลมณี) และเรียกโบสถ์ว่า โบสถ์ปรกโพธิ์ และมี ภาพจิตรกรรมฝาผนัง สมัยปลายกรุศรีอยุธยาเป็นเรื่องราว เกี่ยวกับพุทธประวัติ บริเวณหน้าวัดด้านที่ติดกับแม่น้ำแม่กลอง จะมีปลาน้ำจืดต่างๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จนได้ชื่อว่า "วังมัจฉา"

ค่ายบางกุ้ง

 
ที่เที่ยวแนะนำ