ที่เที่ยว

  • ข้อมูล
  • แผนที่
  • Street View
เพิ่มรูป แก้ไข View : 2,116

เมืองบังบด

เมืองบังบด

เมืองหลวงของชาวบังบด ตำนานดินแดนเมืองบังบด เมืองลับแล

จากเรื่องเล่าของหลวงปู่่วัง (เทพเจ้าแห่งภูลังกา) ท่านได้เล่าให้ฟังว่ามีชาวบังบดมานิมนต์คืนหนึ่งเมื่อท่านนั่งสมาธิพอจิตสงบแล้วได้เห็นสิ่งหนึ่งที่คล้ายกับอู่ (เปล) ของเด็กลอยมาหน้าถ้ำแล้วก็มุ่งมาที่ถ้ำอู่นั้นก็ลอยต่ำลงมาที่ท้ายถ้ำมีคนมาในนั้น 5 คนมีทั้งคนเฒ่าทั้งชายและหญิงเมื่อเข้ามาแล้วกราบท่านแล้วแจ้งความประสงค์ให้ท่านทราบว่าจะมานิมนต์ท่านให้ไปอยู่เมืองบังบดกับเขาเมืองนั้นอยู่บริเวณป่าตาดน้ำตกแถวนั้นเมื่อท่านได้กวาดสายตาไปดูเข้าได้เห็นผู้หญิงใบหน้าและทรงผมเหมือนผู้หญิงที่ได้พบตอนกลางวันวันก่อนท่านจึงทักว่าโยมเคยมาหาอาตมาแล้วมิใช่หรือผู้หญิงคนนั้นจึงประณมมือตอบท่าว่าใช่แล้วที่ไม่เข้ามาหาท่านวันนั้นเพราะท่านอยู่รูปเดียวเห็นว่าเป็นเวลาไม่เหมาะสมจึงไม่กล้ามากราบท่านแล้วหลวงปู่วังก็บอกเขาว่าไปอยู่พวกท่านไม่ได้ตอบว่าถ้าไม่ไปอยู่กับเขาแล้วที่เณรทั้ง 3 ไปเก็บเส้นเทาที่ตาดน้ำตกนั้นเขาเห็นอยู่ต่อไปนี้จะไม่มีเส้นเทาอีกแล้ว (เทาเป็นตะไคร่น้ำหรือสาหร่ายเกิดตามหินที่มีน้ำไหลตลอดเป็นเส้นสีเขียวคล้ายเส้นผมยาวคืบหนึ่งหรือยาวกว่าชาวอีสานเรียกว่าเท่าเอามาทำเป็นอาหารได้เรียกว่าลาบเทา) เมื่อท่านได้รับคำนิมนต์ของเขาแล้วเขาก็กราบลากลับขึ้นอู่เหาะไปเหมือนเมื่อตอนเขามาต่อมาก็แปลกมากคือเทาที่เกิดอยู่ที่นั้นไม่มีอีกเลย

 

ต่อมาก็มีเหตุการณ์ของเจ้าหนุ่มวรหลานชายชองหลวงปู่วังอยากจะบวชเป็นพระแต่อายุยังไม่ครบ หลวงปู่วังให้นุ่งขาวถือศีล 8 เป็นพ่อขาวฝึกปฎิบัติธรรมไปก่อนวันหนึ่งบวชไปแสวงหาต้นตาวในป่าภูลักาจะเอาต้นตาวมาต้มแกงถวายพระเณรในตอนเช้าชวบได้หายตัวไปไม่กลับมาเลยพระเณณและพ่อขาวได้ออกตามาจนกระทั่งมืดค่ำก็ไม่พบร่องรอยใดๆ หลวงปู่วังได้นั่งสมิธิดูก็ได้พบว่าบวรไปอยู่กับสาวงามลับแลอยู่กินกันเป็นผัวเมียกันเสียแล้วเป็นไปตามเหตุปัจจัยบุพพวาสนาเก่าหรือบุฟเฟสันนิวาสบันดาลให้มาเจอกันเพราะเป็นเนื้อคู่กัน

 

หัวหน้าชาวลับแลได้บอกกับหลวงปู่วังว่าเจ้าหนุ่มบวรมาอยู่เมืองลับแลถูกต้องตามจารีตประเพณีของเมืองลับแลจะกลับออกไปไม่ได้จะต้องดำเนินชีวิตเหมือนชาวลับแลทุกอย่างหากทำผิดกฎจารีตประเพณีก็จะถูกขับไล่กลับเมืองมนุษย์ฉะนั้นในระหว่างนี้จะให้บวรกลับถ้ำชัยมงคลไม่ได้หลวงวังเข้าใจกฎจารีตประเพณีนี้ก็อับจนปัญญาไม่รู้จะช่วยบวรได้อย่างไรจะอธิบายให้ญาติพี่น้องฟังเขาคงจะไม่เชื่อเพราะเรืองเมืองลับแลพิสูจรน์ไม่ได้เลยที่เล่าๆกันมาก็เป็นเชิงนิยายปรัมปราเอาสาระไม่ได้ญาติพี่น้องคงจะเชื่อว่าบวรเหวตายหรือถูกเสือถูกงูเหลือกินไปแล้วมากกว่า

 

หัวหน้าชาวลับแลได้บอกว่าพระอาจารย์อย่าได้คิดวิตกเป็นทุกข์ไปเลยถ้าใครสงสัยเรื่องบวรไปอยู่เมืองลับแลก็ให้คนนั้นที่ภูลังกานุ่งขาวถือศิล 8 มานั่งสมาธิอธิษฐานจิตขอเห็นเมืองลับแลอยากจะพบบวรก็จะได้พบสมความปรารถนาหายสงสัยโดยกระผมจะให้คนนำทางมารับเข้าเมืองลับแลถ้าไม่กล้าเข้าไปในเมืองลับแลก็ให้เลลือกเอาวิธีออกไปยืนกลางแจ้งในเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ได้ร้องตะโกนดังๆว่าบวรอยู่ที่ไหน ก็จะมีเสียงของบวรตะโกนตอบกลับมาจากเมืองลับแลจะซักถามอะไรก็ได้แต่จะพบตัวบวรไม่ได้

 

หลวงปู่วังได้เล่าเรืองนี้ให้พระเณรฟัง ดังนั้นในวันต่อมาพระอาจารย์โง่นโสรโยกับพระเณรและพ่อขาวได้พากันไปพิสูจน์ออกไปยืนอยู่กลางแจ้งบนภูลังกาในเวลากลางวันร้องตะโกนเรียกหาบวรก็ปรากฎอัศรรย์ว่ามีเสียงบวรตะโกนตอบมาจากดงไม้ในหุบเขาเมื่อซักถามต่างๆ บวรตอบได้ถูกต้องชัดเจนว่าเป็นบวรจริงๆ ไม่ได้คนอื่นแอบอ้างเป็นตัวบวรแต่อย่างใด

 

บวรได้บอกว่าเขาอยู่สบายดีมีความสุขมกับเมียสาวชาวลับแล ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวลับแลเหมือนบ้านเมืองมนุษย์ทุกอย่าง ชาวลับแลไม่ใช่ภูตผีหากเป็นเผ่าหนึ่งที่หายตัวได้กำบังตาได้ทำให้มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ยกเว้นแต่ในกรณีที่ชาวลับแลอยากให้เราเห็นจะเห็นได้บวรยังได้บอกอีกว่าเขาพอใจจะอยู่ที่เมืองลับแลไม่อยากกลับออกมาอยู่เมืองมนุษย์เลยขออย่าได้เป็นห่วงเป็นใยใครได้มาอยู่เมืองลับแลแล้วจะติดใจเพราะมีความสุขกายสบายใจเป็นแดนทิพย์สุขมหัศจรรย์ อธิบายไม่ถูกต้องมาเห็นเองถึงจะรู้ได้ด้วยตัวเอง

เมืองบังบด  (เมืองลับแล)

เมืองบังบด (เมืองลับแล)

เมืองบังบด  (เมืองลับแล)

เมืองบังบด (เมืองลับแล)