แม่ฮ่องสอน เมืองแห่งขุนเขา ท่ามกลางทะเลหมอก

วันแรก

ออกเดินทางจากเชียงใหม่ วิ่งทางไปเชียงดาวตามทางหลวง 107 แล้วเลี้ยวซ้ายที่อ.แม่แตง จากนั้นใช้เส้นทาง 1095

จุดที่น่าสนใจ อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สา (น้ำตกสวย เดินทางสะดวก) น้ำตกหมอกฟ้า (น้ำตกที่สูงและสวย สามารถเล่นน้ำได้) โป่งเดือด (น้ำพุร้อนที่สูงที่สุดในประเทศไทย) ห้วยน้ำดัง (จุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง)

8.00 น.

ทานอาหารเช้า พร้อมออกเดินทางไปอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สา

9.00 น.

ถึง อช.น้ำตกแม่สา น้ำตกมี 10 ชั้น ชั้นที่ 4-5 เป็นชั้นที่สวยที่สุด หากไม่มีเวลามาก ไม่จำเป็นต้องขึ้นถึงชั้นบนสุด

10.30 น.

อำลา น้ำตกแม่สาระหว่างทางจะผ่าน สวนกล้วยไม้ ฟาร์มงู ฯลฯ ย้อนกลับทางเดิมเพื่อใช้ทางหลวง 1095

11.30 น.

แวะชมน้ำตกหมอกฟ้า หากใครชอบเล่นน้ำ ที่นี่บรรยากาศและความสวยงามของน้ำตกไม่เป็นรองที่ใด เล่นน้ำได้สบาย ชาวต่างชาติที่รักธรรมชาติมักเดินทางมาเยี่ยมเยียนที่นี่เสมอ สถานที่พักและห้องน้ำปัจจุบันทางอุทยานแห่งชาติกำลังก่อสร้างอยู่ กำลังปรับปรุงพื้นผิวถนน คาดว่า ต้นปี 44 จะเรียบร้อย

12.30 น.

แวะทานอาหารกลางวันระหว่างทาง

13.30 น.

เดินทางต่อไปที่ โป่งเดือด

14.30 น.

ถึงโป่งเดือด อยู่ในบริเวณอช.ห้วยน้ำดังแต่เข้าคนละทาง เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาด แม้ทางเข้าจะเป็นทางลูกรังไม่สะดวกแก่การเดินทางก็ตาม โป่งเดือดได้ชื่อว่าเป็นน้ำพุร้อนที่สูงที่สุดในประเทศไทย อยู่ในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนเข้า จ.แม่ฮ่องสอน

ที่นี่มีที่พัก ห้องน้ำให้บริการ ในบริเวณมีที่ อาบน้ำแร่ นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่าไปชมหมู่บ้านกระเหรี่ยงหรือ นั่งช้างชมป่า ล่องแก่งแม่น้ำปาย (ซึ่งปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมอย่างมากจากชาวต่างชาติ)

15.30 น.

จำใจลาโป่งเดือดก่อนที่หลงใหล โดยลืมว่ายังมีอีกหลายสถานที่เที่ยวที่รอเราอยู่ ห้วยน้ำดัง คือ เป้าหมายต่อไปของเรา

16.20 น.

ถึงห้วยน้ำดัง เราสามารถใช้บัตรผ่านประตูเข้าอุทยานจากโป่งเดือด มาเข้าที่นี่ก็ได้ เพราะอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติเดียวกัน ไม่ต้องเสียสตางค์เพิ่ม ห้วยน้ำดังมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่โด่งดัง ตามรูป อยู่บริเวณที่ทำการอุทยาน ที่นี่มีบ้านพักที่จำนวนจำกัด ตลอดฤดูท่องเที่ยวที่พักจะเต็มตลอด มีห้องน้ำและไฟฟ้า และเต้นท์ให้เช่าสำหรับนักท่องเที่ยว หากนักท่องเที่ยวประสงค์จะข้างแรมที่นี่ ผมแนะนำให้เตรียมเต้นท์ สัมภาระในการค้างแรมต่างๆ ให้พร้อม

แวะถ่ายถาพและชมรอบอุทยานให้เรียบร้อยก่อนเดินทางเข้าอำเภอท่าปาย เป้าหมายสู่ที่พักของเราในวันนี้

17.20 น.

ออกเดินทางก่อนพระอาทิตย์ตก จากห้วยน้ำดัง จะเป็นทางลงเขาตลอด ต้องขับรถด้วยความระมัดระวัง

18.00 น.

เข้าเขต อำเภอท่าปาย จ.แม่ฮ่องสอน เลือกสถานที่พักตามใจชอบ มีเกสท์เฮ้าส และรีสอร์ท ที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วทั้งอำเภอ หากไม่รู้พักที่ไหน ขอแนะนำ ท่าปายสปาแคมป์ปิ้ง ลักษณะเด่น คือ มีน้ำแร่ ซึ่งทางรีสอร์ท ต่อจากโป่งน้ำร้องท่าปายมาจากเขา ให้อาบฟรี อยู่ริมลำน้ำปาย บรรยกาศล้อมรอบด้วยธรรมชาติ เงียบสงบ พร้อมต้อนรับผู้มาเยือน ราคาที่พัก 600-800 บาท พร้อมน้ำอุ่น (น้ำแร่)

วันที่ สอง

ทัศนาจรต่อบนทางสายขุนเขา ตลอดเส้นทางของวันนี้ เราจะเดินทางจาก ปาย - ปางมะผ้า - อำเภอเมือง ตลอดเส้นทาง เราจะพบ ชาวต่างชาติขับรถ ขึ่มอเตอร์ไซด์ เดินทางไปพร้อมกับเราตลอดทาง ถนนสายนี้ผมถือว่าเป็นถนน ที่คลาสสิคที่สุดสายหนึ่งในประเทศไทย เส้นทางยังคงคดเคี้ยวลัดเลาะตามเขา เข้าไปในป่าดงดิบ พร้อมๆ กับ ซ้อนเร้นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น โป่งน้ำร้อน น้ำตก ถ้ำ หมู่บ้านชาวเขา รอคอยให้เราเยี่ยมชมตลอดทาง

แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ถ้ำน้ำลอด (ลำน้ำปายไหลผ่านเข้าไปในถ้ำขนาดใหญ่)

8.00 น.

รับวันใหม่ กับทะเลหมอกยามเช้า ทานอาหารเช้าให้เรียบร้อยก่อนเดินทางสู่ อำเภอเมือง จ.แม่ฮ่องสอน

9.00 น.

หลังอาหารเช้า โป่งน้ำร้อนท่าปาย คือ สถานที่ท่องเที่ยวที่แรก สำหรับวันนี้ หากเปรียบกับโป่งเดือดของวันวาน ที่นี่ดูเหมือนจะด้อยกว่าเล็กน้อย แต่เดินทางได้สะดวกกว่ามาก ตลอดทางถึงโป่งน้ำร้อน(น้ำพุร้อน) เราจะพบลำธารเล็กไหลตลอดทางเข้า ลองสัมผัสดู น้ำยังคงร้อนอยู่แม้อากาศภายนอกจะเย็นก็ตาม

9.45 น.

ออกเดินทาง จากปาย สู่ อำเภอปางมะผ้า แวะชม ถ้ำ(น้ำ)ลอด ซึ่งถือว่าเป็น ไฮไลท์ของวันนี้

12.00 น.

ถึงถ้ำน้ำลอด ลักษณะ พิเศษคือ เป็นถ้ำที่เกิดจากน้ำไหลผ่านเข้าไปในถ้ำ จึกเกิดเป็นถ้าขนาดใหญ่ ภายในมีถ้ำเล็กถ้ำน้อยอีกหลายแห่ง

บริเวณทางเข้าที่ทำการอุทยานฯ นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเช่าตะเกียงพร้อมคนนำทางนั่งเรือเข้าไปเที่ยว ในถ้ำได้ เริ่มล่องเรือจากปากถ้ำเข้าไป ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วจะออกอีกทางหนึ่ง จริงๆ แล้วคนที่แม่ฮ่องสอนเล่าให้ฟังว่า ทางเข้าและทางออกก็ไม่ได้ไกลกันเท่าไรไม่ต้องล่องเรือให้เสียเวลาหรอก ผมเองก็ไม่ได้ลองก็ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงครับ เพราะกลัวเสียเวลา

13.00 น.

หากเราไม่เข้าชมในถ้ำ ก็สามารถเดินเล่นไปดูบริเวณปากถ้ำได้(เหมือนผม) แล้วทานอาหารกลางวัน หน้าที่ทำการอุทยาน

14.00 น.

ออกเดินทางไป วนอุทยานถ้ำปลา ที่นี่อยู่ริ่มถนน 1095 แต่เดินเท้าเข้าไปอีกเพียง 500 เมตร

ระหว่างทาง เราจะลัดเลาะตามภูเขาหลายลูก นั่นหมายความว่า จะผ่านชุมชมวิวบนยอดเขาด้วยเช่นกัน จุดชมวิวที่ปางมะผ้าเป็นอีกจุดที่เราสามารถเห็น ทิวเขาพร้อมทะเลหมอก สลับกันเป็นชั้นๆ อย่างสวยงาม คลิกชมวิวที่นี่

16.00 น.

ถึง วนอุทยานถ้ำปลา ในถ้ำจะเป็นช่องน้ำซึ่งจะมีปลาอาศัยอยู่ ปัจจุบันทางวนอุทยานกำลังจะเตรียมจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมตั้งชื่ออุทยานแห่งนี้

16.45 น.

ออกเดินทางต่อสู่อำเภอเมือง จ.แม่ฮ่องสอน

17.30 น.

ถึง อำเภอเมือง เลือกพักตามใจชอบ ดูในรายชื่อ ที่พัก จ.แม่ฮ่องสอน โรงแรมที่ทำเลที่ดีดูเหมือน จะเป็น ใบหยกซาเล่ ราคา 800-1200 บาท ตั้งอยู่บน ถนนขุนลุมประพาส (ถนนสายเศรษฐกิจ ) ด้านตะวันตกคือ วัดพระธาตุดอยกองมู ด้านตะวันออกคือ วัดจองกลาง วัดจองคำ ด้านเหนือคือ แหล่งชอปปิ้งยามค่ำคืน และแหล่งอาหารที่ตลาดโต้รุ่ง

หากเรามาถึงที่นี่ ขณะที่ตะวันยังไม่ลับขอบฟ้า ผมแนะนำขึ้นดอยชมพระธาตุกองมู เลย ทีนี่มีจุดชมวิวเมืองแม่ฮ่องสอน พร้อมชมพระอาทิตย์ตกลับทะเลหมอกหลังเขาที่นี่สวยที่สุด

18.00 น.

เราขับรถมาถึงขนาดนี้ก็ต้อง ให้รางวัลกับตัวเองซะหน่อย หาอาหารเย็น อร่อยๆ แนะนำที่ตลาดโต้รุ่งครับ มีอาหารพื้นเมืองหลายร้าน หากต้องการถูกๆ พ่อครัวระดับภัตราคาร ก็ที่นี่ครับ Don Enterprise เจ้าของคือเชฟเก่าของ รร.ใบหยกชาเล่ มีอาหารพื้นเมืองมากมาย เช่น เขียดแลว (กบภูเขา อาหารขึ้นชื่อของจังหวัด) และอาหารประเภทปลา ปลาแม่น้ำปาย  หรือไม่ก็ร้านใบเฟิร์น บนถนนขุนลุมประพาส ไม่ไกลจาก รร.ใบหยกเท่าไร

สิ่งสำคัญอีกอย่างครับ เกือบลืมไป หอการค้า จ.แม่ฮ่องสอน เขาแจก certificate สำหรับ คนขับและคนนั่งรถด้วย หากเราขับรถมาจากเชียงใหม่ผ่าน พันกว่าโค้ง ก็รับ certificate เป็นเกียรติประวัติไปเลย ฟรี หอการค้าอยู่ในตลาดโต้งรุ่งเยื้องกับ ธ.กรุงเทพฯ สาขา แม่ฮ่องสอน

ก็อยู่บริเวณเดียวกันร้านอาหารที่ผมแนะนำแหละครับ

หากไม่ชอบบริเวณนี้ ก็มีอีกหลายร้านครับแถวตัวเมือง อีกร้านอาหารที่ดูดีขึ้นมาอีกระดับอยู่ตรงหัวมุมบริเวณหนองน้ำจองคำ บรรยากาศดี (จำชื่อร้านไม่ได้) เห็นวัดจองกลางสะท้อนกับพื้นน้ำของหนองจองคำ จิบเบียร์เย็นๆ เบาๆ พร้อมเสียงเพลง

19.00 น.

จัดสัมภาระ อาบน้ำอาบท่า แล้ว ชอปปิ้ง บริเวณ ถนนขุนลุมประพาส ส่วนใหญ่เป็นสินค้าพื้นเมือง ประเภทไม้ ผ้า และกระเป๋า