สถานที่ท่องเที่ยว
หัวหิน เกาะเสม็ด เกาะช้าง บ้านพักพัทยา ปาย เขาค้อ ที่พักหัวหิน   

อยุธยา

...สนใจที่พัก แนะนำ โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ อยุธยา คลิกที่นี่ได้เลย ราคาพิเศษสำหรับผู้ชมไทยทัวร์....

อยุธยา > ที่พักอยุธยา > แผนที่อยุธยา > ร้านอาหาร > ของฝาก > การเดินทาง > สนามกอล์ฟ

 อำเภอเมือง อยุธยา
 
 ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา

จัดตั้งขึ้นตามโครงการที่นักวิชาการไทย และนักวิชาการญี่ปุ่น ได้ปรับขยายมาจากข้อเสนอเดิมของสมาคมไทย-ญี่ปุ่น และจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่เคยเสนอ ปรับปรุงบริเวณที่เคยเป็น หมู่บ้านญี่ปุ่น และสร้างพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านญี่ปุ่นมาเป็นการเสนอให้จัดตั้งเป็นศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสถาบันวิจัย และพิพิธภัณฑสถานเกี่ยวกับราชอาณาจักรอยุธยา โดยส่วนรวมและได้รับงบประมาณ ช่วยเหลือแบบให้เปล่าจากรัฐบาลญี่ปุ่น เป็นเงิน 999 ล้านเยน เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติในพระบรมราชวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา และเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสที่มิตรภาพ ระหว่างประเทศญี่ปุ่น กับราชอาณาจักรไทยได้สถาวรยืนนานมาครบ 100 ปี

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว
 


-----------------------------------------
 

 พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสามพระยา

ตั้งอยู่ที่ตำบลประตูชัย ปลายถนนขุนเมืองใจ ใกล้ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นด้วยเงินที่ประชาชนเช่าพระพิมพ์ซึ่งขุดได้ จากกรุวัดราชบูรณะ ที่สมเด็จ พระบรมราชาที่ 2 (พระเจ้าสามพระยา) ทรงสร้าง จึงให้ชื่อว่า "สามพระยา" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เมื่อ พ.ศ. 2504 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยาเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งแรกในประเทศไทย ที่มีรูปแบบ การจัดแสดงแผนใหม่คือนำโบราณวัตถุมาจัดแสดงไม่มากจนแน่น และได้นำหลักการใช้แสงสี มาใช้ทำให้การนำเสนอดูน่าสนใจมาก

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 วังจันทรเกษมหรือวังหน้า

ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสักมุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเมืองใกล้ตลาดหัวรอ สร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชยังทรงเป็นมหาอุปราชครองเมืองพิษณุโลก เมื่อ พ.ศ. 2112 เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระยุพราช และพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ เมื่อคราวเสียกรุงในปี พ.ศ. 2310 วังนี้ได้ถูกข้าศึกเผาทำลายเสียหายมากและถูกทิ้งร้างจนถึงรัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ได้โปรดฯ ให้ซ่อมพระที่นั่งพิมานรัตยา และพลับพลาจตุรมุขเป็นที่ประทับเมื่อเสด็จประพาสพระนครศรีอยุธยา ต่อมาในรัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานให้เป็นที่ว่าการมณฑลอยุธยา และรัชกาลที่ 7 โปรดฯ ให้เปลี่ยนเป็นศาลากลางจังหวัดจนกระทั่งได้สร้างศาลากลางใหม่แล้ว กรมศิลปากรจึงได้เข้ามาดูแลและจัดทำเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษมจนกระทั่งปัจจุบันเปิดให้เข้าชมทุกวัน เว้นวันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทยคนละ 10 บาท ชาวต่างประเทศคนละ 30 บาท รายละเอียดติดต่อ โทร. (035) 251586

ball.gif (1227 bytes) ชมโบราณสถานและโบราณวัตถุบริเวณวังจันทรเกษม [click here]

-----------------------------------------

 พระราชวังหลวง

ที่ปรากฏในพระนครศรีอยุธยาปัจจุบันนี้คงเหลือแต่ฐานอาคารให้เห็นเท่านั้น สันนิษฐานว่า พระเจ้าอู่ทองทรงสร้างพระราชวังตั้งแต่เมื่อครั้งประทับอยู่ที่เวียงเล็ก เมื่อ พ.ศ. 1890 และเมื่อสร้างพระราชวังเสร็จใน พ.ศ. 1893 จึงย้ายมาประทับที่พระราชวังใหม่ริมหนองโสน ปราสาทในครั้งแรกนี้ สร้างด้วยไม้อยู่ในบริเวณวัดพระศรีสรรเพชญ์ ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 1991 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงถวาย ปราสาทเดิมเป็นวัดในเขตพระราชวัง แล้วทรงสร้างปราสาทใหม่ เลื่อนไปทางเหนือชิดริมน้ำ 

ball.gif (1227 bytes) ชมสถานที่น่าสนใจในบริเวณราชวังหลวง [click here]
พระที่นั่งต่างๆ ในเขตพระราชวังหลวง หรือที่เรียกในปัจจุบันว่า พระราชวังโบราณ เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ทุกรัชกาล อยู่ริมกำแพงพระนครศรีอยุธยา ทางด้านเหนือมีถนนสายรอบกรุงผ่านจากวังจันทรเกษมไปเพียง 2 กม. เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. ค่าเข้าชมสำหรับชาวไทยคนละ 10 บาท ชาวต่างประเทศคนละ 30 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร. (035) 242501, 244570


-----------------------------------------

 

 วัดพระศรีสรรเพชญ์  | 

เป็นวัดสำคัญที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวงเช่นเดียว กับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ที่กรุงเทพฯ หรือวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ใช้เป็นที่ประทับ ต่อมา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงสร้างพระราชมณเฑียรขึ้นใหม่ แล้วโปรดยกให้เป็น เขตพุทธาวาส เพื่อประกอบ พิธีสำคัญต่างๆ ของบ้านเมือง จึงเป็นวัดในเขตพระราชวังที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ต่อมาในสมัย สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงสร้างพระสถูปเจดีย์องค์ตะวันออก เพื่อบรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถพระราชบิดา เมื่อ พ.ศ. 2035 องค์กลางบรรจุพระอัฐิของ สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 พระเชษฐาธิราช ในปี พ.ศ. 2042 ทรงสร้างพระวิหาร และในปีถัดมาทรงหล่อพระพุทธรูปยืนสูง 8 วา หุ้มด้วยทองคำหนัก 286 ชั่ง (ประมาณ 171 กิโลกรัม) ถวายพระนามว่า "พระศรีสรรเพชญดาญาณ" ซึ่งภายหลังเมื่อเสียกรุง พ.ศ. 2310 พม่าได้เผาลอกทองคำไปหมด และองค์พระพังยับเยิน เจดีย์องค์ที่ 3 ถัดมาด้านทิศตะวันตกเป็นเจดีย์บรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาที่ 2 ซึ่งสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 พระราชโอรสได้โปรดให้สร้างขึ้น

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

วัดพระรามและบึงพระราม

อยู่นอกเขตพระราชวังไปทางด้านทิศตะวันออก สมเด็จพระราเมศวร ทรงสร้างขึ้นตรงที่ถวาย พระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระเจ้าอู่ทองพระราชบิดา วัดนี้มีบึงขนาดใหญ่หน้าวัด เดิมเรียกว่า "หนองโสน" ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น "บึงพระราม" ปัจจุบันคือ "สวนสาธารณะบึงพระราม" ซึ่งใช้เป็นที่ สำหรับพักผ่อนหย่อนใจของชาวจังหวัด พระนครศรีอยุธยาและสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอีกด้วย

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 วัดราชบูรณะ

อยู่เชิงสะพานป่าถ่าน ตรงข้ามวัดมหาธาตุ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) โปรดให้สร้างขึ้น เมื่อราว พ.ศ. 1967 ณ ที่ซึ่งใช้ถวายพระเพลิงเจ้าอ้ายกับ เจ้ายี่ชนช้างกันจนถึงแก่พิราลัย และโปรดให้ก่อเจดีย์ 2 องค์ สวมทับบริเวณที่ชนช้าง ปัจจุบันเหลือเพียงฐานอยู่กลางวงเวียนหน้าวัด ซากที่เหลืออยู่แสดงว่าวิหารและส่วนต่างๆ ของวัดนี้ใหญ่โตมาก พระปรางค์ที่เหลืออยู่เป็นศิลปะ อยุธยาสมัยที่ 1 ซึ่งนิยมตามแบบขอมที่ให้พระปรางค์เป็นประธานของวัด คราวเสียกรุง วัดนี้ถูกเผา เสียหายหมด แม้พระปรางค์ใหญ่จะยังคงเหลืออยู่ แต่ได้ถูกคนร้ายลักขุดของมีค่าในกรุไปส่วนหนึ่ง จนกระทั่งกรมศิลปากรได้ขุดกรุเอาโบราณ วัตถุที่มีค่าไปรักษาไว้ใน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ซึ่งสร้างโดยเงินบริจาค จากการนำพระพิมพ์ขนาดเล็กที่ได้จากกรุนี้เป็นของชำร่วย เมื่อปี พ.ศ. 2500

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 วัดเสนาสนาราม

อยู่หลังวังจันทรเกษม เป็นวัดโบราณเดิมชื่อ "วัดเสื่อ" มีพระพุทธรูปสำคัญ 2 องค์คือ "พระสัมพุทธมุนี" เป็นพระประธานในอุโบสถและ "พระอินทรแปลง" ประดิษฐานอยู่ในพระวิหาร เป็นพระพุทธรูปที่ อัญเชิญมาจากนครเวียงจันทน์

-----------------------------------------

วัดพระมงคลบพิตร, วิหารพระมงคลบพิตร  |

ตั้งอยู่ทางด้านใต้ของวัดพระศรีสรรเพชญ์ พระมงคลบพิตร เป็นพระพุทธรูปบุสัมฤทธิ์องค์ใหญ่องค์หนึ่งในประเทศไทย เดิมอยู่ทาง ทิศตะวันออกนอกพระราชวัง สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมโปรดฯ ให้ย้ายมา ไว้ทางด้านตะวันตก ที่ซึ่งประดิษฐานอยู่ในปัจจุบันและโปรดฯ ให้ก่อมณฑปสวมไว้
ครั้นถึงแผ่นดิน ของสมเด็จพระเจ้าเสือ ยอดมณฑปเกิดไฟไหม้เพราะอสนีบาต ทำให้ส่วนบนขององค์พระมงคลบพิตรเสียหายจึงโปรดให้ก่อสร้างใหม่ แปลงเป็นพระวิหารแทน เมื่อเสียกรุงครั้งที่ 2 วิหารพระมงคลบพิตร ได้ถูกไฟไหม้ พระวิหารและองค์พระพุทธรูปได้รับการปฏิสังขรณ์ใหม่ ฝีมือ ไม่งดงามอ่อนช้อยเหมือนเก่า บริเวณข้างวิหารพระมงคลบพิตรทางด้านทิศตะวันออก เดิมเป็น สนามหลวง ใช้เป็นที่สำหรับสร้างพระเมรุพระบรมศพของพระมหากษัตริย และเจ้านายเช่นเดียวกับ ท้องสนามหลวงของกรุงเทพฯ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
  พระมงคลบพิตร  
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 ปางช้างอยุธยา (แลเพนียด)

มีบริการขี่ช้างตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ราคา 200-500 บาท รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ โทร. (035) 211001  ตั้งอยู่ระหว่างทางไปวิหารมงคลบพิตร

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
  Elephant Camp Pavilion  
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 คุ้มขุนแผน

ตั้งอยู่ที่ถนนป่าโทน เป็นตัวอย่างของหมู่เรือนไทยภาคกลาง ในรูปแบบเรือนคหบดีไทยสมัยโบราณ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2437 และได้รับการปรับปรุงตกแต่งใหม่เมื่อ พ.ศ. 2483 บริเวณที่ตั้งคุ้มขุนแผนเคยเป็นคุกนครบาลสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเชื่อกันว่าขุนแผนเคยต้องโทษอยู่ในคุกแห่งนี้

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
  คุ้มสุพรรณ  
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 วัดมหาธาตุ

ตั้งอยู่ตรงหน้าพระราชวังด้านทิศตะวันออกเชิงสะพานป่าถ่าน สร้างใน สมัยของสมเด็จพระราเมศวรเมื่อ พ.ศ.1927 ลักษณะสถาปัตยกรรมของพระมหาธาตุ (ปรางค์) เป็นแบบแรกของสมัยอยุธยา ซึ่งมีอิทธิพลของขอมปนมาก ชั้นล่างก่อสร้างด้วยศิลาแลง แต่ที่ เสริมใหม่ปัจจุบัน เป็นอิฐปูนสมเด็จ พระเจ้าปราสาททอง ได้ปฏิสังขรณ์พระปรางค์ใหม่โดยเสริม ให้สูงกว่าเดิม แต่ขณะนี้ยอดพังลงมา เหลือเพียงชั้นมุขเท่านั้น เมื่อ พ.ศ. 2499 กรมศิลปากร ได้ขุดแต่งพระปรางค์แห่งนี้ ได้ของโบราณหลายชิ้น ที่สำคัญคือผอบศิลา ภายในมีสถูป 7 ชั้น แบ่งออกเป็น ชิน เงิน นาก ไม้ดำ ไม้จันทร์แดง แก้วโกเมนและทองคำ ชั้นในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและเครื่องประดับอันมีค่า

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 พระราชานุสาวรีย์สุริโยทัยเจดีย์พระศรีสุริโยทัย  |

อยู่ในเกาะเมืองด้านทิศตะวันตก เป็นโบราณสถานที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เพราะสถานที่นี้มิได้เป็นเพียงอนุสรณ์สถานของวีรสตรีไทยพระองค์แรก เท่านั้น หากแต่ยังหมายถึงการยืนยัน เกียรติแห่งสตรีไทย ที่ได้รับการยกย่องจากสังคมไทยมาแต่ครั้ง บรรพกาลอีกด้วยเรื่องมี อยู่ว่าในขณะที่ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิขึ้นครองราชย์ได้เพียง 7 เดือน เมื่อ พ.ศ. 2091 พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้และ บุเรงนอง ยกทัพเข้ามาล้อมกรุงศรีอยุธยาครั้งแรกโดยผ่านมาทางด้านด่าน พระเจดีย์สามองค์จังหวัดกาญจนบุรี และ ตั้งค่ายล้อมพระนคร การศึกครั้งนั้นเป็นที่เลื่องลือถึงวีรกรรมของสมเด็จ พระสุริโยทัยซึ่งไสช้างพระที่นั่งเข้าขวาง พระเจ้าแปร ด้วยเกรงว่าสมเด็จพระมหาจักรพรรด ิพระราชสวามีจะเป็นอันตราย จนถูกพระแสงของ้าวฟันพระอังสา ขาดสะพายแล่งสิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง เมื่อสงครามยุติลง สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงปลงพระศพของพระนาง และสถาปนาสถานที่ปลงพระศพ ขึ้นเป็นวัดสบสวรรค์ (หรือวัดสวนหลวงสบสวรรค์) ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการสอบสวนหาตำแหน่งสถานที่ต่างๆ ที่กล่าวถึงในพระราชพงศาวดารเพื่อเรียบเรียง เป็นหนังสือประชุม พงศาวดารขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายจึงเป็นเหตุให้ทราบตำแหน่งของวัดสบสวรรค์ ซึ่งยังคงพบเจดีย์ แบบย่อไม้สิบสอง สูงใหญ่ปรากฏตามที่ตั้งในปัจจุบันนี้ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงขนานนามเรียกชื่อเจดีย์ว่า "เจดีย์พระศรีสุริโยทัย" ในปี พ.ศ. 2533 รัฐบาลได้มอบให้กรมศิลปากร และกรป.กลาง ดำเนินการบูรณะซ่อมแซมเสริมรูปทรงพระเจดีย์ที่ชำรุดให้อยู่ในสภาพเดิมเป็นที่น่ายินดีว่าในวันที่ 20 พฤษภาคม 2533 กรมศิลปากรได้พบศิลปวัตถุโบราณ เช่น พระพุทธรูปผลึกแก้วสีขาวปางมารวิชัย พระเจดีย์จำลอง ผอบทองคำบรรจุพระธาตุ เป็นต้น ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
  เจดีย์พระศรีสุริโยทัย  
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 วังหลัง

ตั้งอยู่ริมกำแพงพระนครศรีอยุธยาด้านทิศตะวันตก เดิมเป็นอุทยานสำหรับเสด็จประพาสเป็นครั้งคราวเรียกว่า สวนหลวง และคงจะปลูกแต่เพียงตำหนักที่พักเท่านั้น ในสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาได้โปรดให้ สร้างเพิ่มเติมเป็นพระราชวัง เพื่อให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระเอกาทศรถ ต่อมาวังหลังได้กลายเป็นที่ประทับ ของเจ้านายในพระราชวงศ์เท่านั้น จึงไม่ปรากฏสิ่งสำคัญหลงเหลืออยู่นอกจากเจดีย์พระศรีสุริโยทัย

-----------------------------------------

 สวนศรีสุริโยทัย

ตั้งอยู่ใกล้กับเจดีย์พระศรีสุริโยทัย สวนศรีสุริโยทัยนี้ ประกอบด้วยศาลาอเนกประสงค์ พลับพลาสมเด็จพระสุริโยทัย เนินเสมาหินอ่อนโบราณอายุกว่า 400 ปี บรรจุชิ้นส่วน พระพุทธรูปที่ชำรุดอัญเชิญมาจากวัดพุทไธศวรรย์ (พระตำหนักเวียงเหล็กของพระเจ้าอู่ทอง) ฯลฯ องค์การสุราฯ เป็นผู้สร้างสวนนี้ เพื่ออุทิศส่วนกุศลถวายอดีตพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ในที่ดินซึ่งเคยเป็นเขตพระราชฐานชั้นใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานชื่อ "สวนศรีสุริโยทัย" เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2532 และองค์การฯ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายสวนนี้แด่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น

 

-----------------------------------------

 สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์

หรือเรียกกันว่าสวนสมเด็จฯ ตั้งอยู่บนถนนอู่ทอง ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะเมือง เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ประกอบด้วยต้นไม้ในวรรณคดีโบราณสถาน และศาลาไทย นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาพื้นที่เป็นสวนป่าสมุนไพรอีกด้วย

-----------------------------------------

 วัดพุทไธศวรรย์ ภาพวัดพุทไธศวรรย์

ตั้งอยู่ริมแม่น้ำทางด้านใต้ฝั่งตรงข้ามของเกาะเมือง หากเดินทางโดยรถยนต์และใช้เส้นทางสายอยุธยา-เสนา ทางทิศตะวันตกของเกาะเมือง ข้ามสะพานวัดกษัตราธิราชแล้วเลี้ยวซ้าย จะผ่านวัด ไชยวัฒนาราม มีป้ายบอกทางเป็นระยะไปจนถึงทางแยกซ้ายเข้าวัดพุทไธศวรรย์วัดนี้สร้างขึ้น บริเวณที่สมเด็จพระเจ้าอู่ทองอพยพมาสร้างเมืองใหม่ เดิมบริเวณนี้เรียกว่า "เวียงเล็ก" หรือ "เวียงเหล็ก" ซึ่งเป็นตำหนักที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจคือ พระปรางค์ประธานองค์ใหญ่เป็นศิลปะแบบอยุธาตอนต้น เข้าไปภายในวัดจะพบอนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ พระนเรศวรมหาราช พระเจ้าอู่ทอง และพระเอกาทศรถ

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 วัดภูเขาทอง

ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ห่างจากพระราชวังหลวงไปประมาณ 2 กม. (ทางเดียวกันกับเส้นทางไปจังหวัดอ่างทอง ทางหลวงหมายเลข 309) จะมีป้ายบอกทางแยกซ้ายไปวัดภูเขาทอง วัดภูเขาทองนี้ หนังสือคำให้การชาวกรุงเก่ากล่าวว่า สมเด็จพระราเมศวร ทรงสร้างเมื่อ พ.ศ. 1930 เมื่อบุเรงนองยกมาตีกรุงศรีอยุธยาได้เมื่อ พ.ศ. 2112 ได้สร้างพระเจดีย์ภูเขาทองขึ้นไว้เป็นที่ระลึก ต่อมาสมเด็จพระเจ้าบรมโกศโปรดให้ซ่อมองค์พระเจดีย์ตอนบนเป็นแบบไทยพร้อมๆกันกับการบูรณะวัด ขณะนี้จึงปรากฏว่าฝีมือช่างมอญเดิมเหลือเพียงฐานทักษิณ สูงขึ้นไปเป็นพระเจดีย์ย่อไม้สิบสองฝีมือช่างไทย บริเวณทางเข้าปัจจุบันได้สร้างพระราชานุสาวรีย์พระนเรศวรมหาราช (จะเห็นได้ดังรูป วัดภูเขาทองจะตั้งอยู่ด้านหลัง)

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
  อนุสาวรีย์พระนเรศวรและภูเขาทอง.jpg (6310 bytes)  
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย

ตั้งอยู่เลยวัดภูเขาทองไปตามทางหมายเลข 309 ตรงไปจะพบสี่แยกไฟแดงให้เลี้ยวซ้ายตรงไปประมาณ 1 กม. จะพบทางเข้าพระราชานุสาวรีย์จะอยู่ทางขวามือ ในบริเวณจะตกแต่งเป็นสวนพักผ่อนขนาดใหญ่มีคูน้ำรอบสวนพักผ่อน ชาวบ้านมักจะพาครอบครัวไปนั่งเล่นดูพระอาทิตย์ตกที่นี่

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
  พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุรีโยทัย  
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

วัดหน้าพระเมรุ  | 

ตั้งอยู่ริมคลองสระบัวด้านเหนือของคูเมือง (แม่น้ำลพบุรีเก่า) ตรงข้ามกับพระราชวังหลวง มีชื่อเดิมว่า "วัดพระเมรุราชิการาม" พระองค์อินทร์ในรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงสร้างเมื่อ พ.ศ. 2046 เป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ถูกพม่าทำลาย และยังคงสภาพที่ดีมาก เพราะพม่าได้ไปตั้งกอง บัญชาการ อยู่ที่วัดนี้ พระอุโบสถเป็น แบบอยุธยาซึ่งมีเสาอยู่ภายใน แต่น่าจะมาเพิ่มเสารับชายคา ทีหลังในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระประธานในอุโบสถ ซึ่งสร้างปลายสมัยอยุธยาเป็น พระพุทธรูปทรงเครื่องหล่อ สำริดขนาดใหญ่ที่สุดที่ปรากฏและมีความงดงามมาก ด้านหลังพระอุโบสถ ยังมีอีกองค์หนึ่งแต่เล็กกว่าคือพระศรีอริยเมตไตรย์

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการปฏิสังขรณ์โดยรักษาแบบอย่างเดิมไว้และ ได้เชิญพระพุทธรูปศิลานั่งห้อยพระบาทสมัยทวาราวดีจากวัดมหาธาตุมาไว้ในวิหารน้อย ซึ่งอยู่ฝั่งขวา ของพระอุโบสถอีกด้วย พระพุทธรูปศิลาแบบนั่งห้อยพระบาทสมัยทวาราวดีนี้ นับเป็น 1 ใน 6 องค์ ที่มีอยู่ในประเทศไทย จึงนับเป็นสิ่งที่มีค่ามาก

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
  พระประธานในโบสถ์  
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 วัดใหญ่ชัยมงคล (วัดเจ้าพระยาไทหรือวัดป่าแก้ว)  |

ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำป่าสัก ถ้ามาจากตัวเมืองข้ามสะพานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แล้วจะเห็นพระเจดีย์วัดสามปลื้มอยู่กลางสี่แยกเลี้ยวขวาไปไม่ไกลก็จะเห็นป้าย มีทางแยกซ้ายมือหรือหากมาทางถนนสายเอเซีย เลี้ยวเข้าแยกอยุธยาแล้วพบพระเจดีย์ใหญ่กลางถนนก็เลี้ยวซ้าย วัดนี้ตามข้อมูลประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าเมื่อพ.ศ. 1900 พระเจ้าอู่ทองทรงสร้าง "วัดป่าแก้ว" ขึ้นตรงที่พระราชทานเพลิงศพ "เจ้าแก้วเจ้าไท" ในการสร้างวัดป่าแก้วครั้งนี้ ได้ทรงสร้างพระเจดีย์ขึ้นคู่กับพระวิหารด้วย

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเสริมพระเจดีย์ให้ใหญ่และสูงขึ้นพร้อมๆ  กับการสร้างเจดีย์ยุทธหัตถีที่ตำบลหนองสาหร่ายจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเฉลิมพระเกียรติเมื่อคราวทรงชนะศึกยุทธหัตถี พระราชทานนามวัดเสียใหม่ว่า "วัดชัยมงคล" ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดใหญ่ชัยมงคล วัดนี้ร้างไปเมื่อคราวเสียกรุงครั้งสุดท้าย แล้วเพิ่งจะตั้งขึ้นเป็นวัดที่มีพระสงฆ์อยู่จำพรรษาเมื่อไม่นานมานี้

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 วัดโลกยสุธาราม

อยู่ถัดจากเจดีย์พระศรีสุริโยทัยเข้าไปทางด้านหลังประมาณกม.เศษบริเวณวัดอยู่ติดกับ วัดวรเชษฐาราม ถ้าจะเดินทางไปชมจะไปทางรถยนต์ผ่านไปตามถนน หลังพลับพลาตรีมุข ในบริเวณพระราชวังโบราณ ผ่านวัดวรโพธิ์และวัดวรเชษฐารามเข้าไปจน ถึงพระพุทธไสยาสน์ องค์ใหญ่ของวัดได้ พระพุทธไสยาสน์องค์นี้ก่อด้วยอิฐถือปูนยาวประมาณ 29 เมตร มีซากพระวิหาร เป็น 6 เหลี่ยมขนาดใหญ่อยู่ชิดองค์พระเหลืออยู่หลายต้นเข้าใจว่าเป็น ซากพระอุโบสถ

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
  พระพุทธไสยาสน์  
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 วัดกษัตราธิราชวรวิหาร

อยู่นอกเกาะเมืองตรงข้ามกับเจดีย์พระศรีสุริโยทัย ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เดิมชื่อ "วัดกษัตรา" หรือ "วัดกษัตราราม" เป็นวัดโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยามี พระปรางค์ใหญ่เป็นหลักประธานของวัด

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 วัดไชยวัฒนาราม

ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกนอกเกาะเมือง เป็นวัดที่พระเจ้าปราสาททอง กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาองค์ที่ 24 (พ.ศ. 2173-2198) โปรดให้สร้างขึ้น ปัจจุบันเป็น วัดร้าง สิ่งก่อสร้างที่เหลืออยู่มี พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุและเจดีย์รายตามพระระเบียงคดรอบ พระปรางค์ ความสำคัญอีก ประการหนึ่งคือ วัดนี้เป็นที่ฝังพระศพของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ กวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลายกับ เจ้าฟ้าสังวาลย์ซึ่งต้องพระราชอาญาโบยจนสิ้นพระชนม์ใน รัชสมัยของพระเจ้าบรมโกศ

วัดไชยวัฒนารามได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2478 และกรมศิลปากรโดยอุทยานประวัติศาสตร์พระนคร ศรีอยุธยาได้ดำเนินการบูรณะ ตลอดมาจนปัจจุบัน ไม่มีสภาพรกร้างอยู่ในป่าอีกแล้ว และยังคง มองเห็นเค้าแห่งความสวยงามยิ่งใหญ่ตระการตา
ซึ่งผู้ไปเยือนไม่ควรพลาดชมอย่างยิ่ง อนึ่ง การเดินทางไปชมวัดสำคัญในประวัติศาสตร์บริเวณนี้ ท่านอาจเช่าเหมาเรือหางยาวจากบริเวณหลังลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระราชวังจันทรเกษมด้านตะวันออกของเกาะเมือง ล่องไปตามลำน้ำป่าสักลงไปทางใต้ ผ่านวิทยาลัยการต่อเรือพระนครศรีอยุธยาวัดพนัญเชิงวรวิหาร วัดพุทไธศวรรย์ โบสถ์โปรตุเกส วัดไชยวัฒนาราม วัดกษัตราธิราช และเจดีย์พระศรีสุริโยทัยอันสง่างามอีกด้วย ซึ่งจะทำให้การเดินทางมีรสชาติไปอีก แบบหนึ่งโดยเฉพาะเวลาพลบค่ำจะเห็นภาพบริเวณวัดไชยวัฒนารามสวยงามมาก เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ค่าเข้าชมสำหรับชาวไทย คนละ 10 บาท ชาวต่างประเทศ คนละ 30 บาท สอบถามรายละเอียดโทร. (035) 242501

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 หมู่บ้านโปรตุเกส

ตั้งอยู่ที่ตำบลสำเภาล่ม บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันตก อยู่ทางใต้ของตัวเมือง ชาวโปรตุเกสเป็นชาวยุโรปชาติแรกที่เข้ามาติดต่อค้าขายกับกรุงศรีอยุธยาโดยเมื่อปี พ.ศ. 2054 อัลฟองโซ เดอ อัลบูเคอร์ก ผู้สำเร็จราชการของโปรตุเกสประจำเอเซีย ได้ส่งนายดูอาร์เต้ เฟอร์นันเดส เป็นฑูตเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา มีชาวโปรตุเกสเข้ามาตั้งหลักแหล่งค้าขาย และ เป็นทหารอาสาในกองทัพกรุงศรีอยุธยาและสร้างโบสถ์ขึ้นเพื่อเผยแพร่ศาสนาและเป็นศูนย์กลางของชุมชน ปัจจุบันบริเวณนี้ยังมีร่องรอยสิ่งก่อสร้างปรากฏให้เห็นคือ โบราณสถานซานเปโตร หรือ โบสถ์ในคณะโดมินิกัน มีการขุดค้นพบโบราณวัตถุที่สำคัญได้แก่ โครงกระดูกมนุษย์ กล้องยาสูบ เหรียญกษาปณ์ และเครื่องประกอบพิธีทางศาสนา

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 วัดพนัญเชิงวรวิหาร

ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสักทางทิศใต้ฝั่งตรงข้ามของเกาะเมือง ห่างจากตัวเมืองราว 5 กม. หรือเมื่อออกจากวัดใหญ่ชัยมงคลถึงถนนใหญ่แล้วเลี้ยวซ้าย วัดนี้เป็นวัดที่มีมาก่อนการสร้างกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้างพระพุทธรูปซึ่งเป็น พระประธานในพระวิหารชื่อพระเจ้าพนัญเชิง (หลวงพ่อโต)สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1867 นับเป็น พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยหน้าตักกว้าง 20.17 เมตร และสูงจากชายพระชงฆ์ถึงรัศมี 19 เมตร ฝีมือปั้นงดงาม เป็นที่เคารพสักการะของชาวจังหวัด ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อคราวพระนครศรี อยุธยาจะเสียแก่ข้าศึกนั้น พระพุทธรูปองค์นี้ มีน้ำพระเนตรไหลออกมาทั้งสองข้าง

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
  หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง  
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 หมู่บ้านญี่ปุ่น

ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะเรียน ในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีชาวต่างประเทศเข้ามาค้าขายเป็นจำนวนมาก ในสมัยนั้น ทางการญี่ปุ่นได้อนุญาติ ให้ชาวญี่ปุ่นค้าขายกับชาวต่างชาติ ได้โดยให้มีหัวหน้าปกครองในกลุ่มตน นับแต่นั้นมาก็มีชาวญี่ปุ่นเข้ามาอาศัยมากขึ้น หัวหน้าชาวญี่ปุ่นในขณะนั้นคือ นากามาซา ยามาดา เป็นผู้มีอำนาจและเป็นที่โปรดปราน ของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม จนได้รับแต่งตั้งเป็น ออกญาเสนาภิมุข รับราชการต่อมา จนได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชจนสิ้นชีวิต ปัจจุบันสมาคมไทย-ญี่ปุ่น ได้จารึกประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านญี่ปุ่นในสมัยกรุงศรีอยุธยา มาตั้งไว้ภายในหมู่บ้าน และ ปรับปรุงบริเวณหมู่บ้านให้เป็นอาคาร ผนวกของศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา จัดแสดงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอยุธยากับต่างประเทศ การเดินทางสามารถเดินทางจากวัดพนัญเชิงวรวิหารไปอีกประมาณ 1.5 กม. ก็จะเห็นอาคารผนวกหมู่บ้านญี่ปุ่นอยู่ทางด้านขวามือ

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
  หมู่บ้านญี่ปุ่น  
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 วัดมเหยงค์

สร้างในรัชสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2  (เจ้าสามพระยา) พ.ศ. 1981 และได้ปฏิสังขรณ์ครั้งแรกในสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ โดยใช้เวลายาวนานถึง 3 ปีเศษ ในช่วงที่เสียกรุง พ.ศ. 2112 พระเจ้ากรุงหงสาวดีได้ตั้งทับหลวงที่วัดแห่งนี้

อ่านประวัติ วัดมเหยงค์ >>>

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
  วัดมเหยงค์  
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 วัดประดู่ทรงธรรม

เดิมชื่อวัดประดู่โรงธรรม สร้างสมัยอยุธยา ภายในพระอุโบสถ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังในสมัยรัตนโกสินทร์ เช่น ภาพกระบวนพยุหยาตราทางสถลมาตร การแสดงมหรสพในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้า

สิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ
ข้างพระอุโบสถมีเจดีย์เชื่อว่าเป็นที่บรรจุอัฐิพระเจ้าทรงธรรม ข้างหลังพระอุโบสถมีพระธาตุ

เป็นวัดโบราณ ถูกกล่าวในพงศาวดารสมัยอยุธยา อ่านประวัติ วัดประดู่ทรงธรรม >>>

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 ตึกเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก

ก่อสร้างเป็นตึกแบบจีนเป็นที่ประดิษฐานรูปเจ้าแม่สรัอยดอกหมาก ชาวจีนเรียกว่า "จู๊แซเนี้ย" เป็นที่เคารพนับถือของชาวจีนทั่วไป

-----------------------------------------

 ป้อมและปราการรอบกรุง

กำแพงเมืองที่พระเจ้าอู่ทองทรงสร้างครั้งแรกนั้นเป็นเพียงเชิงเทินดิน และมีเสาไม้ระเนียดปักข้างบน ต่อมาในรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิจึงได้ก่ออิฐถือปูน ป้อมตามพระราชพงศาวดีมี อาทิ ป้อมมหาชัยป้อมซัดกบ ป้อมเพชร ป้อมหอราชคฤห์ และป้อมจำปาพล เป็นต้น ป้อมใหญ่ๆ มักตั้งอยู่ตรงทางแยกระหว่างแม่น้ำ เช่น ป้อมเพชร อยู่ตรงที่บรรจบของแม่น้ำ เจ้าพระยากับแม่น้ำป่าสัก ป้อมมหาไชยอยู่มุมวังจันทรเกษมในที่ซึ่งเป็นตลาดหัวรอในปัจจุบัน ซึ่งตัวป้อมถูกรื้อนำอิฐไปสร้างพระนครใหม่ที่กรุงเทพฯ ในรัชกาลที่ 1

-----------------------------------------

 วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร

อยู่ในเขตพระนครด้านทิศตะวันออกตอนใต้ริมป้อมเพชร เดิมชื่อวัดทอง เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงสร้างไว้ครั้งกรุงศรีอยุธยา และพระเจ้าแผ่นดินในราชวงศ์จักรี ได้ทรงสร้างเพิ่มเติมและปฏิสังขรณ์ต่อเนื่องกันมา เกือบทุกรัชกาล ผนังภายในพระอุโบสถตอนบน มีภาพเขียนเทพชุมนุม ตอนล่างเขียนเรื่อง เวสสันดรชาดก เตมีย์ชาดกและสุวรรณสามชาดก ตอนหน้าสุดเขียนภาพมารวิชัย พระวิหาร มีรูปเขียนแสดงพระราชวีรกรรม ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งเป็นต้นแบบลอกแพร่หลายออกไปหลายแห่ง

-----------------------------------------

 พระที่นั่งเพนียด 

ตั้งอยู่ในตำบลสวนพริก ห่างจากตัวเมืองประมาณ 4 กม. ตามเส้นทางหมายเลข 309 (ทางเดียวกับวัดภูเขาทอง) สร้างขึ้นเป็นที่สำหรับ พระราชาธิบดี ประทับทอด พระเนตรการจับช้างเถื่อนในเพนียด หรือการจับช้างกลางแปลง เป็นประเพณีที่เคยทำกันมาแต่โบราณ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในราชการในเวลาปกติและในเวลาสงคราม พระที่นั่งของเดิมซึ่งสร้างสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชานั้น ถูกพม่าเผาทำลายเมื่อเสียกรุงครั้งหลัง พ.ศ. 2310 พระที่นั่งเพนียด และตัวเพนียดที่เห็นในปัจจุบันนั้น ลักษณะ เป็นคอกล้อมด้วยซุงทั้งต้น มีปีกกาแยกเป็นรั้วไปสองข้าง รอบเพนียดเป็นกำแพงดิน ประกอบอิฐเสมอยอดเสาด้านหลังคอก ตรงข้ามแนวปีกกาป็นพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการบูรณะ เมื่อ พ.ศ. 2500 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังได้สนับสนุนเงิน งบประมาณแก่กรมศิลปากรในปี พ.ศ. 2531 เพื่อบูรณะเพนียดให้อยู่ในสภาพเดิมอีกด้วย

-----------------------------------------

 วัดกุฎีดาว

อยู่หน้าสถานีรถไฟฝั่งตะวันออก เป็นวัดเก่าแก่ ฝีมือการสร้างงดงามยิ่งแต่ปรักหักพังไปมากแล้ว ปัจจุบันเป็นวัดร้างไม่ปรากฏแน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
  วิหารวัดกุฏีดาว  
ท่องเที่ยว

-----------------------------------------

 วัดสมณโกศ

อยู่ใกล้วัดกุฎีดาว เป็นวัดที่เจ้าพระยาโกษา (เหล็ก) และเจ้าพระยาโกษา (ปาน) ปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ ในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช วัดนี้มีพระปรางค์องค์ใหญ่รูปทรงสันฐานแปลกตากว่าแห่งอื่นเข้าใจว่าเลียนแบบเจดีย์เจ็ดยอดของเชียงใหม่


-----------------------------------------
 

 ตลาดโก้งโค้ง - อยุธยา

ตลาดน้ำ ตลาดสด ตลาดโบราณ ตลาดบก ทุกคนสามารถเดินทางได้อย่างอิ่มอกสำราญใจ อย่างที่มีคนเคยพูดไว้ว่า .. เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้ สำหรับผม จะพาไปรู้จักตลาดน้องใหม่ ที่ใคร ๆ ก็อยากรู้จักกันมาก ณ ตอนนี้ นั่นก็คือ ... ตลาดโก้งโค้ง อยุธยา ตลาดโบราณมหาเสน่ห์ส่วนจะมหาเสน่ห์ยังไง และน่าเที่ยวขนาดไหนนั้น ได้เวลาที่ผมจะพาคุณไปตะลอนทัวร์ที่นั้นแล้วครับ ...
"ตลาดโก้งโค้ง" ตั้งอยู่ที่ บ้านแสงโสม หมู่ 5

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว


-----------------------------------------
 

 วัดท่าการ้อง และ ตลาดน้ำวัดท่าการ้อง

วัดท่าการ้อง เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันตกของเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ท่ามกลางชุมชนอิสลาม 2 หมู่บ้าน คือ บ้านท่ากับบ้านการ้อง อันเป็นวัดพุทธศาสนาที่อยู่ท่ามกลางชุมชนมุสสิม

วัดท่าการ้อง ตั้งอยู่ที่บ้านท่า เป็นวัดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาสักการะบูชาพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ นามว่า "พระพุทธรัตนมงคล" หรือที่เรียกกันว่า "หลวงพ่อยิ้ม" สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ขณะที่บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรืองและสงบสุข ดังจะเห็นได้จากพระพุทธลักษณะที่งดงามและพระพักตร์ที่มีความเมตตา

วัดท่าการ้อง ได้ตกแต่งบริเวณวัดให้สวยงามด้วย ไม้ดอก ไม้ประดับ เป็นระเบียบ รวมทั้งมีห้องน้ำที่ตกแต่งสวยงามจนได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวด สุดยอดส้วมแห่งปีระดับประเทศ ปี 2549 ประเภทวัดและศาสนสถาน

ตลาดน้ำวัดท่าการ้อง ภายในบริเวณด้านหลังของวัดท่าการ้องได้จัดให้เป็นตลาดน้ำ ซึ่ง ของขายในตลาดก็จะเป็นพวกของกินหลากหลายชนิด ทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือ ข้าวผัด ของกินเล่น เช่นก๋วยเตี๋ยวหลอด สั้มตำสมุนไพร ไก่ทอดข้าวเหนียว ลูกชิ้นปิ้ง ขนมตาล ไอศครีม และ ร้านเครื่องดื่ม ประเภทกาแฟ ชาเย็น ใส่ในกระบอกไม้ไผ่ดูแปลกดี ดื่มแล้วชื่นใจ และ ราคาของกินที่นี่ราคาก็ไม่แพง บริเวณตลาดน้ำวัดท่าการ้องเปิดทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์

ติดต่อสอบถามวัดท่าการ้องโทร. (035) 323-088, (035) 211-074

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว


-----------------------------------------
 

 ตลาดน้ำอโยธยา

ตลาดน้ำอโยธยา ตลาดน้ำแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 60 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ที่เดียวกับปางช้างอโยธยา ข้างวัดมเหยงคณ์ เรียกได้ว่า เป็นตลาดน้ำ ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็ว่าได้ เป็นตลาดย้อนยุคแบบโบราณ แวดล้อมไป ด้วยธรรมชาติ แบบไทยพื้นบ้านและสายน้ำ ในตลาดน้ำอโยธยา ได้จัดแบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายโซน มีร้านค้ามากถึง 249 ร้าน ประกอบไปด้วยเรือสินค้า ขายอาหาร 50 ลำ ตลาดนัดชุมชนวิถีไทกว่าอีก 40 ร้าน และร้านค้าต่างๆ อีก 159 ร้าน มีสะพานเดินริมแม่น้ำ เพื่อเลือกซื้อสินค้าจากกลุ่มชาวบ้านต่างอำเภอ หรือสินค้า OTOP มากมายหลากหลายชนิด

จุดเด่นอีกเรื่องหนึ่งของตลาดน้ำอโยธยา คือ การนำชื่ออำเภอทั้งหมดของ จังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา มาตั้งเป็นชื่ออาคาร สถานที่ เพื่อให้ผู้ที่มาเยือนได้รู้จักสินค้าของแต่ละอำเภอ และสามารถจดจำชื่ออำเภอต่างๆ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้เป็นอย่างดี เช่น ตลาดบางซ้าย เครื่องจักรสาน ตลาดบางบาล ขนมของฝาก ตลาดบางปะหัน โรตี, ขนม, ของฝาก ตลาดเสนา กุ้งสด, ปลาเผา ลานการแสดง กรุงศรีอยุธยาเป็นต้น

แผนผัง อยุธยา
::: Hotels in Ayutthaya Hot !
::: ที่พัก อยุธยา มนต์เสน่ห์ของเมืองเก่า
:::
อยุธยา NEW !
::: ประวัติ อยุธยา
:::
โรงแรมอยุธยา
NEW !
::: ทัวร์อยุธยา
::: ทัวร์อยุธยา Update!!
:::
ทัวร์วัดอยุธยา
::: 
ทัวร์บางประอิน
::: ที่พักอยุธยา
ที่พัก อยุธยา
::: เที่ยวอยุธยา:
::: อำเภอพระนครศรีอยุธยา
::: อำเภอบางปะอิน
::: อำเภอบางไทร
:::
อำเภอนครหลวง
:::
โบราณสถานและโบราณวัตถุ
::: พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา
:::
พระราชวังหลวง
::: การเดินทาง อยุธยา
 

::: แผนที่จังหวัดอยุธยา
:::
แผนที่ ตัวเมือง อยุธยา

::: กิจกรรม
::: กอล์ฟ
::: เทศกาล อยุธยา
::: ร้านอาหาร อยุธยา
::: ของฝาก อยุธยา
River Sun Cruise:
Tour Ayutthaya
 

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 
 

หัวหิน  เกาะเสม็ด   เกาะช้าง  เกาะเต่า  พัทยา  ภูเรือ  เขาใหญ่  เขาค้อ  ดอยอินทนนท์  สวนผึ้ง  

หัวหิน

บริษัท ไทยทัวร์ อินโฟ จำกัด
Email: info@thai-tour.com All rights reserved by Thai-Tour.Com with TAT License 11/04452
เกี่ยวกับเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว | การใช้เวปไซต์ | โฆษณา

 
ท่องเที่ยว