การเดินทาง | จองที่พัก | โปรแกรมเที่ยว | แผนที่ |
วันที่ 3 |
จุดเด่นของวันนี้อยู่ที่ กระเหรี่ยงคอยาว ทุ่งดอกบัวตอง บนดอยแม่อูคอ และน้ำตกแม่สุรินทร์ |
7.30 น. |
รับรุ่งอรุณ ยามเช้า ทานอาหารเช้า หากพลาดเที่ยว วัดพระธาตุดอยกองมู เมื่อวานก็ขึ้นดอยได้อีกในวันนี้ ชมทะเลหมอกยามเช้า ซึ่งปกคลุมทั่วเมืองแม่ฮ่องสอน นี่แหละครับ สมกับชื่อว่า เมืองสามหมอกจริงๆ |
8.00 น. |
แวะชมวัดพระนอน ชมศิลปพระพุทธรูปแบบพม่า บนทางขึ้นดอย ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์ ของเก่าแก่มากมาย รวมทั้งพระบัวเข็ม พระศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่ |
8.20 น. |
แนะนำอีก สองวัดซึ่งอยู่ติดกัน วัดจองกลางและวัดจองคำ ชมศิลปต้นตำรับวัดแห่งแรกของจังหวัด ที่วัดจองกลาง และนมัสการหลวงพ่อโตพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่วัดจองคำ |
9.00 น. |
นมัสการวัดหัวเวียง พระพาราละแข่ง อยู่ใกล้ตลาดสายหยุด พร้อมจอดรถที่วัด เดินชมตลาดสดยามเช้า |
9.30 น. |
กลับที่พัก เก็บสัมภาระ เตรียมออกเดินทาง ไป อ.ขุนยวม |
10.30 น. |
ออกเดินทางจากที่พัก ใช้เส้นทาง 108 เลี้ยวขวาที่ โชว์รูม Isuzu ห่างจากตัวเมืองประมาณ 7 กม. ไปทางท่าเดื่อ ซึ่งคือ ท่าเรือไปชมกระเหรี่ยงคอยาว บ้านน้ำเพียงดินติดชายแดนพม่า |
11.00 น. |
ถึงท่าเรือ เช่าเรือพร้อมคนขับ 500 บาท สำหรับคนไทย (ไม่เสียค่าชมกระเหรี่ยงคอยาวเป็นรายบุคคล เหมือนชาวต่างชาติ) ระยะทาง 5 กม. ใช้เวลา 1/2 ชั่วโมง หากจะนั่งเรือต่อไปอีก 5 กม. ถึงชายแดนไทย-พม่า สถานีตำรวจบ้านน้ำเพียงดิน ระหว่างนั่งเรือ เราสามารถชมทัศนียภาพสองฝั่งลำน้ำปาย บางช่วงน้ำจะไหลเชี่ยวคล้ายน้ำตก แต่ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด |
12.30 น. |
กลับสู่ท่าเรือ ทานอาหารเที่ยง |
13.30 น. |
ออกเดินทางไปขุนยวม ระหว่างทาง จาก อ.เมือง - อ.ขุนยวม จะมีจุดชมวิวบนเขา ตามรูป มุมนี้เป็นมุมที่สวยที่สุดมุมหนึ่งของ แม่ฮ่องสอน ก่อนถึง ตัวอำเภอขุนยวม 1 กม. จะมีทางแยกเลี้ยวซ้ายไป ดอยแม่ฮูคอ (ทางเดียวกับทางไป อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่) ตามเส้นทาง 1263 เป็นระยะทาง 26 กม. ถึง ทุ่งดอกบัวตอง |
16.00 น. |
ถึงดอยแม่อูคอ บนดอยมีรีสอร์ทและที่พักจำนวนจำกัด นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนำเต็นท์ไปกันเอง เดินเล่นตามใจชอบมีจุดชมวิวสวยๆ อยู่ สองสามจุด คือ บริเวณบนที่ทำการ และบนยอดดอย คลิกดูmovie หน่อยเป็นยังไง ผมแนะนำที่พักก่อนทางขึ้นดอย ชื่อว่า สวนแม่อูคอ หรือระหว่างทางขึ้นทุ่งดอกบัวตองเล็กน้อยจะมีรีสอร์ทของชาวบ้านให้เช่า ราคา 300-500 บาท ที่นี่ไม่มีเบอร์โทรติดต่อต้องเสี่ยงดวงเอาเองว่าจะว่างหรือเปล่า หากเต็มก็ไม่เป็นไร แต่ต้องนอนเต็นท์แล้วหละครับ ที่สำนักงานบนดอย มีเต้นท์ให้เช่า ราคา 120-150 บาท พร้อมผ้าห่ม ค่าเช่าตะเกียงอีก 30 บาท เลือกกางเต็นท์ได้ตามใจชอบ ที่นี่มีร้านอาหาร และห้องน้ำพร้อม แต่ไม่มีไฟฟ้าเท่านั้นครับ thai-tour.com แนะนำ กางเต้นท์ใกล้ๆห้องน้ำ แต่อยู่เหนือลมจะได้สะดวกและไม่ได้กลิ่น ที่นี่ยิ่งดึกยิ่งหนาวครับ หากไม่ชอบที่กางเต้นท์ที่ดอยแม่อูคอนี่ก็ยังมีอีกที่ครับ ที่ผมแนะนำ อช.แม่สุรินทร์ แต่ต้องเดินทางไปอีก 11 กม.ตามทางลูกรัง อุทยานนี่ไม่ค่อยมีคนไปกางเต้นท์เท่าไร แถมมีห้องน้ำให้ใช้ไม่ต้องแย่งใคร ใกล้ร้านค้าของเจ้าหน้าที่อุทยานอีกต่างหาก สะดวกดี |
17.00 น. |
ชมวิว ทานอาหาร พักผ่อนตามอัธยาศัย |
วันที่ 4 |
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ น้ำตกแม่สุรินทร์ น้ำตกที่สูงและสวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย มีโปรแกรมลุยป่า สำหรับหนุ่มสาว ไป-กลับ ถึงตัวน้ำตก 3 ชั่วโมง ขาไปทางเดิน ลงเขาตลอด ลัดเลาะข้างลำธาร ต้องปีนป่ายข้ามขอนไม้ขวางลำธารบางช่วง ทางเดินค่อนข้างลำบาก และอาจหลงทางได้หากไม่มีผู้ชำนาญทาง ผมเองก็เกือบหลงไปเหมือนกัน (เดินป่าคนเดียวนี่ครับ คนเดียวจริงๆ เพราะกะว่าระหว่างทางจะเจอใครบ้าง แต่ไม่มีซะคนจนถึงตัวน้ำตก ถึงได้รู้ว่ามีผมคนเดียวในป่าที่น้ำตกแห่งนี้) ขากลับ ทางเดินก็ขึ้นเขาอย่างเดียว เล่นเอาปวดขาไม่มีแรงเหมือนกัน เพราะไหนจะต้องสะพายกล้องอีก 2 ตัว และอุปกรณ์กล้องอีก |
8.00 น. |
รับอรุณยามเช้า ฟังเสียงนกร้อง ตลุยน้ำตกแม่สุรินทร์ สำหรับ ผู้ชมทั่วๆไป ที่นี่มีจุดชมวิวน้ำตกหลายมุมครับ แต่ย่อมมีข้อเสีย เพราะไม่สามารถมองเห็น เบื้องล่างของน้ำตกได้เลย ตามรูปถ่ายน้ำตกจากจุดชมวิวครับ อีกนิดเดียวก็ตกเหวแล้วครับ |
9.30 น. |
ได้เวลาลุยน้ำตกสำหรับนักเดินป่าตัวยง แนะนำให้นำชุดเล่นน้ำไปด้วย ที่น้ำตกมีหลายจุดที่เล่นน้ำได้ น้ำเย็นและใสมาก จากรูปคือ บริเวณน้ำตกเบื้องล่าง (หลังจากเดินป่าคนเดียว 45 นาที ของผม เมื่อเห็นน้ำตกก็หายเหนื่อยทันที ทั้งเสียงที่ดังกังวาล ความแรงของสายน้ำ กลิ่นไอของธรรมชาติ 100% สดชื่นที่สุด หากผมพูดอย่างนี้หลายคน คงอยากได้เห็นบ้าง ฮะๆฮ่า คลิดดูมินิซีรี่กันเลยที่นี่ ผมเก็บมาหลายมุมครับ มีทั้งรูป รส เสียง แต่ไม่ได้กลิ่นเท่านั้น) |
13.00 น. |
ทานอาหารกลางวัน และเตรียมสัมภาระเดินทางกลับ ไปยัง อ.แม่สะเรียง |
14.00 น. |
ออกเดินทาง ผ่านทุ่งตอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ อีกครั้ง หยุดถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แวะชอปปิ้ง เชิงดอย แวะชมไร่กะหล่ำปลีของชาวเขา |
15.00 น. |
แวะเที่ยววัดต่อแพ ก่อนถึงตัวเมือง มีทางแยกจากทางหลวง 108 เข้าไปอีก 5 กม. ที่นี่มีของโบราณมากมาย เช่น ผ้าม่านอายุกว่า 150 ปี มีโบสถ์ศิลปะแบบพม่า หากใครเบื่อวัดแล้วก็ไม่ต้องแวะนะ |
15.30 น. |
ออกเดินทางสู่ อ.แม่สะเรียง |
17.30 น. |
ถึง อ.แม่สะเรียง เลือกที่พักตามใจชอบ แนะนำ รร.มิตรอารีย์ 2 ที่นี่มีชื่อเสียงที่สุดของอำเภอ หรือรองลงมาก็ กมลสรโฮเต็ล |
วันที่ 5 |
อำลาแม่ฮ่องสอน เดินทางกลับ เชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ทุ่งดอกบัวตองดอยแม่เหาะ และอช.ออบหลวง |
8.00 น. |
ทานอาหารเช้า เก็บสัมภาระเดินทางกลับ |
9.00 น. |
ได้เวลาเดินทาง หากต้องการเที่ยวต่ออีกสักหน่อย ที่ตัวอำเภอมี วัด 2-3 แห่งน่าสนใจ คือ วัดกิตติวงค์ วัดจองสูง และวัดแสนทอง |
11.00 น. |
ถึง ดอยแม่เหาะ เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อยู่ริมถนนสาย 108 มีทุ่งดอกบัวตอง ให้นักเดินทางได้แวะพักผ่อน ตลอดทางถนนยังคงคดเคี้ยว พร้อมมีทุ่งนาแบบขั้นบรรไดให้เห็นอยู่ตลอดทาง |
13.00 น. |
ถึง อช.ออบหลวง ทานอาหารกลางวัน และแวะถ่ายรูป บนสะพานไม้ข้ามเขาช่องขาดซะหน่อย ที่นี่มีลำน้ำแม่แจ่มไหลผ่าน ทางอุทยานมีโปรแกรม ให้นักท่องเที่ยวสามารถล่องแก่งได้ ลำน้ำเชี่ยวพอดู คลิกดูที่นี่ว่าเชี่ยวแค่ไหน |
17.00 น. |
ถึงเชียงใหม่ โดยสวัสดิภาพ |
ค่าใช้จ่าย โปรแกรมนี้ อยู่ระหว่าง 4,000-5,000 บาท |
copyright by Thai-Tour.Com