Thailand Tour, Bangkok, Ayutthaya, Phuket, Chiangmai

   

งานพืชสวนโลก
1 พฤศจิกายน 2549 - 31 มกราคม 2550
จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

ท่านใดสนใจ จองที่พัก รีบติดต่อด่วนนะครับ

 
งานพืชสวนโลก (งานราชพฤกษ์ '49) จำกัดผู้เข้าชมวันละ 35,000 ท่านเท่านั้น
ท่านที่ต้องการเดินทางในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ กรุณาจองบัตรล่วงหน้าด้วยครับ
งานพืชสวนโลก ต้นไม้ของพ่อ งานราชพฤกษ์ 2549 จุดเด่นของงาน
หอคำหลวง สวนเฉลิมพระเกียรติ ปฎิทินและกิจกรรม การเดินทาง
โรงแรมที่เชียงใหม่ บัตรเข้าชมงานราชพฤกษ์ สอบถามรายละเอียด สถานที่จัดงาน

งานพืชสวนโลก

งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549- 31 มกราคม 2550 นี้ ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวง ต.แม่เหียะ จ.เชียงใหม่ บนพื้นที่ 470 ไร่ เป็นงานที่รวบรวมสุดยอดความมหัศจรรย์แห่งพรรณไม้ ในพื้นที่เขตร้อนชื้นที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีความหลากหลายมากที่สุดของพรรณไม้กว่า 2,200 ชนิด กว่า 2.5 ล้านต้น

งานพืชสวนโลก ยังเป็นการประกาศศักยภาพการผลิตพืชผลทางการเกษตรของไทยด้าน พรรณไม้ดอกไม้ประดับ ไม้สมุนไพร พืชสวนครัว ไม้แปลกหายาก และ พืชผลทางการเกษตร สู่เวทีตลาดการค้าโลก ซึ่งงานครั้งนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี  และฉลองพระชนมายุ 80 พรรษา เพื่อแสดงศักยภาพในการเพาะปลูกพันธุ์ไม้เขตร้อน และเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านการเกษตรของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีก้านพรรณไม้เขตร้อนทั่วโลก และเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กระตุ้นภาคเศรษฐกิจ สังคม และพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านกาเกษตร ภายใต้ Theme ของงาน
“เพื่อนำความรักสู่มนุษยชาติ” (To Express the Love for Humanity)

การจัดงานสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ได้รับการรับรองในการจัดงานในระดับ A1 อย่างเป็นทางการจากสำนักงานมหกรรมโลก ( Bureau of International Exposition – BIE ) สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ ( Association of Horticulture Producers – AIPH )
และภายใต้การสนับสนุนจาก สมาพันธ์ดอกไม้โลก ( World Flower Council – WFS ) และสมาคมพืชสวนนานาชาติ ( International Society for Horticultural Science – ISHS ) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพในการจัดงานของประเทศไทยทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะความพร้อมนด้านขนาดพื้นที่ ระยะเวลาการจัดงาน สาระนำเสนอในระดับสากล และความหลากหลายของพืชพรรณไม้ที่นำมาจัดแสดง

 

.................................................................................

ต้นไม้ของพ่อ

ต้นไม้อะไรที่สามารถตั้งลำต้นให้เจริญงอกงามอยู่บนผืนแผ่นดินได้นานเท่านาน แม้ว่าสรรพสิ่งมีชีวิตที่ต่างมาพึ่งพาอาศัยจะเวียนว่ายตายเกิดไปหลายภพหลายชาติแล้วก็ตาม แต่ต้นไม้ต้นนี้ก็ยังตั้งตระหง่านเป็นร่มเงาให้แก่สิ่งมีชีวิตในรุ่นถัดมาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ต้นไม้ต้นนี้คือ “ต้นไม้ของพ่อ” ต้นไม้ที่มีรากแก้วแข็งแรง มีกิ่งก้านสาขาทอดยาวไปไกลทั่วราชอาณาจักร เปรียบได้กับพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่แผ่ไปคุ้มครองพสกนิกรของพระองค์ในทุกตารางนิ้วของสยามประเทศขวานไทยแผ่นดินทอง

จากอดีตที่ผ่านมากว่า 50 ปี ทางราชการมีความพยายามหลายครั้งในการกำหนดให้มีสัญลักษณ์ประจำชาติไทย โดยเฉพาะการกำหนด ต้นไม้ และ ดอกไม้ ประจำชาติ

ปี พ.ศ.2494 รัฐบาลมีมติให้ถือวันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ มีการชักชวนให้ปลูกต้นไม้ที่มีประโยชน์ชนิดต่างๆ มากมาย

กระทั่งในปี พ.ศ.2506 มีการประชุมเพื่อกำหนดสัญลักษณ์ต้นไม้และสัตว์ประจำชาติเป็นครั้งแรก โดยกรมป่าไม้ได้เสนอให้ ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูณ ไม้มงคลที่มีประโยชน์และรู้จักกันอย่างแพร่หลายเป็นต้นไม้ประจำชาติ

ปี พ.ศ.2530 มีการส่งเสริมให้ปลูกต้นราชพฤกษ์อีกครั้ง เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ โดยมีการส่งเสริมให้ปลูกต้นราชพฤกษ์ทั่วประเทศจำนวน 99,999 ต้น ทุกวันนี้จึงมีต้นราชพฤกษ์อยู่มากมายทั่วประเทศไทย

ปี พ.ศ.2544 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ เสนอให้มีการกำหนดสัญลักษณ์ประจำชาติ 3 สิ่งคือ ดอกไม้ประจำชาติ ได้แก่ ดอกราชพฤกษ์ สัตว์ประจำชาติ ได้แก่ ช้างไทย และสถาปัตยกรรมประจำชาติ ได้แก่ ศาลาไทย

งานราชพฤกษ์ 2549

ราชพฤกษ์ – ต้นไม้ประจำ ชาติ และความหมายอันเป็นมงคล
 

“ราชพฤกษ์” เป็นชื่อต้นไม้ประจำชาติ ถือเป็นไม้มงคลที่มีความสำคัญต่อประเทศไทย เนื่องจากมีดอกเป็นพวงระย้า สีเหลืองสด อันเป็นสีแห่งพระพุทธศาสนา และนอกจากนี้ สีเหลืองยังเป็นสีประจำวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช มหาราช พระมหากษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี

ด้วยเหตุนี้ ราชพฤกษ์ จึงได้ถูกเลือกให้เป็นชื่อของงาน มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นโดยรัฐบาลไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเฉลิมฉลองในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีในปี 2549 และเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาในปี 2550

ตราสัญลักษณ์
ประกอบขึ้นด้วยรูปทรงของดอกราชพฤกษ์ ที่พัฒนามาจากธรรมชาติ จริงของดอกราชพฤกษ์ มีสีเหลือง 5 กลีบ

ส่วนเกษรของดอกราชพฤกษ์ในตราสัญลักษณ์ ได้รับการออกแบบให้อยู่ในรูปทรงของตัวเลข ๙ ไทย อันสื่อความหมายว่า งานราชพฤกษ์ 2549 เป็นงานมหกรรมที่จัดขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ แห่งพระมหาจักรีบรมราชวงศ์ เนื่องในวโรกาสแห่งการเฉลิมฉลองที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเฉลิมพระชนมพรรษ 80 พรรษา

 

และเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่พสกนิกรทั่วทุกจังหวัด นอกเหนือจากการมีต้นไม้ประจำชาติไทยแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานต้นกล้า ซึ่งเปรียบได้กับน้ำพระทัยของพระองค์ท่านไปยัง 76 จังหวัดของประเทศไทย ให้เป็นสัญลักษณ์ประจำของแต่ละจังหวัด โดยทรงคัดเลือกต้นไม้ที่มีนามมงคลเหมาะสมกับแต่ละจังหวัด และหลายคนคงไม่รู้ว่า ต้นไม้ประจำจังหวัดต่างๆนั้น เป็นต้นอะไรบ้าง ในการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 – 31 มกราคม 2550 ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยคณะทำงานได้รวบรวมต้นไม้ของแต่ละจังหวัดนำมาจัดให้เป็นมุม “ต้นไม้ประจำจังหวัด” บนรูปขวานไทยแผ่นดินทอง วันนี้ก่อนจะไปเจอต้นไม้ของจริง จึงได้นำรายละเอียดของต้นไม้ประจำจังหวัด เรียงตามภูมิภาคและลำดับตัวอักษร มาให้ทราบและศึกษาเป็นความรู้กันก่อน

….ใครที่ไม่เคยรู้จักพันธุ์ไม้ประจำจังหวัดของตนเองหรือแม้แต่ของจังหวัดอื่นๆ มาก่อน ว่ามีลักษณะรูปร่างหน้าตา มีดอก ใบ และผลเป็นอย่างไร สามารถไปดูพันธุ์ไม้ดังกล่าวข้างต้นได้ในงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 – 31 มกราคม 2550 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับมหกรรมโลก ครั้งแรกของประเทศไทย ที่พรรณไม้จากทั่วโลก จะเบ่งบานบนผืนแผ่นดินไทย และ พันธุ์ไม้ไทยจะอวดโฉมงดงามแก่สายตานานาชาติ เพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเจริญพระชนมายุ 80 พรรษา ในปี 2550

................................................................................

ราชพฤกษ์ 2549 – มหกรรมแห่งการเฉลิมฉลอง
ในปี 2549 ประชาชนชาวไทย จะมีโอกาสได้ร่วมเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในวโรกาสมหามงคลถึง 2 วาระด้วยกัน คือ การเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 พรรษาในวันที่ 9 มิถุนายน 2549 และจะทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคม 2550

ดังนั้น เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติฯและถวายความจงรักภักดี รัฐบาลไทยจึงมีมติจัดงาน มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ขึ้น ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 – 31 มกราคม 2550 ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้เป็นมหกรรมแห่งการเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ ที่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าใต้ร่มพระบารมี จะได้มีส่วนร่วมในการจัดงาน

งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ จะเป็นงานมหกรรมพืชสวนที่สวยสดงดงามที่สุดงานหนึ่งของโลก และยังเป็นงานมหกรรมระดับโลกที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย อันมีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯพระมหากษัตริย์ผู้เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย การจัดงานครั้งนี้ จึงกำหนดจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมุ่งเน้นการเผยแผ่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพในด้านการเกษตรกรรม และโครงการในพระราชดำริ ซึ่งได้ทรงคิดค้นและก่อตั้ง เพื่ออำนวยประโยชน์สุขให้แก่ประชาชนชาวไทย

 


ราชพฤกษ์ 2549 – มอบความรักสู่มวลมนุษยชาติ
งาน มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 จัดแสดงบนพื้นที่รวม 470 ไร่ เป็นงานที่ได้รับการรับรองจาก สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) และ สำนักงานมหกรรมโลก (BIE) โดยจะมีการแสดง ความหลากหลายของพืชพรรณไม้ต่างๆ กว่า 2,200 ชนิด จำนวนกว่า 2 ล้าน 5 แสนต้น ซึ่งนับว่าเป็นมหกรรมพืชสวนโลกเขตร้อนชื้นที่สมบูรณ์ที่สุดของโลก


กิจกรรมสำคัญอีกประการหนึ่งภายในงาน ราชพฤกษ์ 2549 คือ การจัดสวนเฉลิมพระเกียรติฯซึ่งเปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆ องค์กรภาครัฐและเอกชน รวมทั้งบริษัทมหาชนและรัฐวิสาหกิจ ได้มีส่วนร่วมเฉลิมพระเกียรติฯและถวายความจงรักภักดี ด้วยการจัดสวน และการร่วมจัดแสดงกิจกรรมประเภทต่างๆ ภายในงาน

ด้วยการนำเสนอสาระสำคัญของการจัดงาน คือ การมอบความรักสู่มวลมนุษยชาติ ดังนั้น การจัดและตกแต่งสวนรวมทั้งกิจกรรมต่างๆ จึงมุ่งเน้นการสื่อสารให้เห็นความสำคัญของธรรมชาติ และความรักที่ธรรมชาติมีต่อมวลมนุษย์ โดยเฉพาะพืชพรรณไม้ต่างๆ ที่ล้วนมีประโยชน์และคุณค่าต่อทุกชีวิต โดยให้ที่พักพิง คือ บ้านเรือนที่อยู่อาศัย ให้อาหารเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต ให้เครื่องนุ่งห่ม คือ เส้นใยไหมหม่อนที่นำมาทอเป็นเสื้อผ้าที่สวยงาม และให้ยารักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ดังนั้น มนุษย์ จึงควรตระหนักในความสำคัญของธรรมชาติ และตอบแทนธรรมชาติด้วยการดูแลรักษา ทะนุบำรุง และขยายพันธุ์ ให้เจริญงอกงามยิ่งขึ้นๆ ไป

และความรักที่ธรรมชาติมีต่อมวลมนุษย์นี้ เปรียบได้ดังความรักที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ด้วยทรงห่วงใยและก่อตั้งโครงการในพระราชดำริต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทย จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันปกแผ่ให้ความร่มเย็นแก่ทุกชีวิตใต้ร่มพระบารมี

ราชพฤกษ์ 2549 – เปิดโลกแห่งอารยธรรมอันล้ำค่า
ไม่เพียงเป็นงานมหกรรมพืชสวนโลก ที่นำเสนอความหลากหลายของพรรณพืช ไม้ดอกไม้ประดับ สมุนไพร และเทคโนโลยี รวมทั้งวิชาการด้านพืชสวนที่ทันสมัยของโลกเท่านั้น แต่ราชพฤกษ์ 2549 ยังจะเป็นงานที่รวบรวมกิจกรรมการแสดงที่มีสาระประโยชน์ มีคุณค่า และแสดงถึงวัฒนธรรมอันล้ำค่าของแต่ละท้องถิ่น แต่ละชาติ/ภาษาไว้อย่างครบครัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันงดงามล้ำค่าของดินแดนล้านนา ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรมที่เก่าแก่ซึ่งสืบทอดกันมายาวนานหลายศตวรรษ

นอกจากนี้ผู้ชมงานยังจะมีได้พบกับการแสดงศิลปะ วัฒนธรรม จากนานาชาติ ที่มิตรประเทศของไทยจากทั่วโลกร่วมนำเสนอตลอดระยะเวลาการจัดงาน

งานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 จึงเป็นงานมหกรรมแห่งการเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ที่ประชาชนชาวไทย ต้องไม่พลาดในการเข้าชม และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองและเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสมหามงคลโดยพร้อมเพรียงกัน

จุดเด่นของงาน
1.หอคำหลวง (Royal Pavilion) คือ พื้นที่จัดแสดงส่วนกลางที่โดดเด่นที่สุดของงาน ตั้งอยู่บนเนินดิน เนื้อที่ประมาณ 3,000 ตารางเมตร บริเวณถนนทางเข้าตกแต่งด้วยซุ้มเฉลิมพระเกียรติฯ 30 ซุ้ม แต่ละซุ้มมีกรอบภาพพระบรมฉายาลักษณ์สี่ด้านติดกัน นำเสนอพระราชกรณียกิจและพระบรมราโชวาท ขนาบด้วยต้นราชพฤกษ์ตลอดสองข้างทาง ส่วนตัวอาคารเป็นเรือนไม้ครึ่งตึก 2ชั้น ที่มีความสง่างามสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนา “หอคำหลวง” ใช้ในการจัดแสดงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ ชั้นบนของหอคำหลวง ที่ผนังทั้ง 3 ด้าน ตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนังภาพวาด พระราชกรณียกิจในการเยี่ยมราษฏร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่อยู่ในใจของพสกนิกรตลอด 60 ปี ที่ทรงครองราชสมบัติ เป็นภาพที่สร้างสรรใหม่ลงรักปิดทองแบบไทยกำมะลอ ประกอบด้วยฉากหลังเป็นภาพป่าของประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับแนวความคิดการจัดงานราชพฤกษ์ พร้อมทั้งจัดแสดงภาพพระราชจริยวัตร ครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระเยาว์ และจัดทำปฏิมากรรมพร้อมฐานที่ควรค่าแก่การเคารพบูชา เป็นสัญลักษณ์ของต้นไม้แห่งทศพิธราชธรรม ซึ่งในเบื้องต้นนี้จะใช้ชื่อว่า “ต้นบรมโพธิสมภาร” มีใบไม้ 21,915 ใบ เท่ากับจำนวนวันที่ทรงครองราชย์ตลอดระยะเวลา 60 ปี โดยจัดทำเป็นอักษรนูนต่ำ ที่มีข้อความเป็นภาษาบาลีเกี่ยวกับเรื่องทศพิธราชธรรม เพื่อใช้เป็นที่สำหรับให้ประชาชนมาสักการะ



บริเวณชั้นล่างของหอคำหลวง แสดงนิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ และซุ้มเฉลิมพระเกียรติฯ ประกอบด้วย “นิทรรศการ 6 ทศวรรษ กษัตริย์นักพัฒนา” ที่ฉายภาพพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้ทรงตรัสไว้ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” และภาพประกอบภาพเหตุการณ์ขณะทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พร้อมตราสัญลักษณ์การฉลองสิริราชครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ ที่แสดงถึงพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตรและความเป็นกษัตริย์นักพัฒนาขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจัดแบ่งพื้นที่ภายในห้องนิทรรศการหลักออกเป็น 9 โซน ดังนี้

        โซน 1. บทนำ “ ธ ทรงมุ่งหวังที่จะเห็นความฟาสุขของประชาชนชาวสยาม” เป็นการแสดงภาพ การเสด็จเยี่ยมราษฎรในท้องที่ต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่เป็นภาพแห่งความทรงจำที่ประทับใจ เป็นต้น

        โซน 2. “จากจิตรลดาสู่พสกนิกร” นำเสนอพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในส่วนของโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ได้แก่ ป่าไม้สาธิต นาข้าวทดลอง ปลานิลปลาหมอเทศ โรงโคนม ไบโอดีเซล สาหร่ายเกลียวทอง ผลิตภัณฑ์จากหนังปลานิล เป็นต้น

        โซน 3. “น้ำพระทัยอาทรชาวสยาม” นำเสนอเรื่อง น้ำ การจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร โครงกาฝายชะลอความชุ่มชื้น และพระราชดำริให้จัดทำฝนหลวง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภาวะแห้งแล้ง โครงการกังหันชัยพัฒนาสำหรับเรื่องของขจัดน้ำเสีย การแก้ปัญหาการเกิดน้ำท่วมภายใต้โครงการแก้มลิง เพื่อแก้ปัญหาการระบายน้ำ ซึ่งสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับราษฎรได้เป็นอย่างมาก

        โซน 4. “พืชผลงามด้วยดินดี” พระราชดำริเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรดินโดยไม่ลอกหน้าดิน และยังทรงสร้ารูปแบบระบบอนุรักษ์ดินในพื้นที่พรุ โดยใช้วิธีการแกล้งดิน และปัญหาการชะล้างพังทลายของหน้าดิน พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้นำหญ้าแฝกมาใช้ในการอนุรักษ์ดินและน้ำ เปรียบเสมือนกำแพงที่มีชีวิตในการอนุรักษ์ และคืนธรรมชาติสู่แผ่นดิน รวมทั้งปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้นด้วย

        โซน 5. “ปลูกป่าไม้เพื่อชีวีสำนึกดีในใจคน” พระราชทานพระราชดำริหลายประการ คือ ปลูกป่า 3 อย่าง แต่ประโยชน์ 4 อย่าง ปลูกป่าเปียก การปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก การปลูกป่าในที่สูง และการปลูกป่าในใจ รวามถึงโครงการฝายชะลอความชุ่มชื้น ที่เอื้อผลประโยชน์ที่ดีต่อกัน ของธรรมชาติกับธรรมชาติอีกด้วย

        โซน 6. “ขจัดต้นสิ่งเสพติด เพื่อชีวิตราษฎร” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของราษฎร โดยมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขา ทรงพระกรุณาให้จัดตั้งศูนย์พัฒนาโครงการหลวง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ชาวเขามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และช่วยขจัดปัญหายาเสพติด โดยปลูกพืชที่เป็นประโยชน์ทดแทนฝิ่น ให้ความรู้เรื่องถางป่าและปลูกโดยไม่ถูกต้อง รวมทั้งการรักษาป่า รักษาดินให้เป็นประโยชน์ต่อไปและยั่งยืน และเรื่องราวเกี่ยวกับ สวนสองแสน สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป

        โซน 7. “เพิ่มศักยภาพเกษตรกรด้วยการศึกษา” แนวพระราชดำริให้ตั้งศูนย์การศึกษาการพัฒนาอันเรื่องมาจากพระราชดำริ ขึ้นตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวม 6 แห่ง โดยทำหน้าที่เสมือน “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต” เพื่อทำการทดลองวิจัย แสวงหาวิธีการแก้ปัญหาและแนวทางการพัฒนา เช่น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นต้น

        โซน 8. “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และทฤษฎีใหม่ นำมาสู่ผลผลิตแห่งความสำเร็จ ในส่วนนี้ เปรียบเสมือนบทสรุปของโครงการทั้งหมดที่กล่าวไว้ในส่วนจัดแสดง ซึ่งนำเสนอบทสรุปของเนื้อหาทั้งหมดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยพสกนิกรและทรงงานมาโดยตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์สมบัติ เป็นเวลา 60 ปี และการเดินตามรอยพระราชดำรัสปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ทรงตรัสไว้สำหรับประชาชนทุกคน เพื่อประโยชน์สุข และชีวิตที่พอเพียงสำหรับประชาชนทุกกลุ่มชั้น

        โซน 9. นิทรรศการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จัดทำให้ออกมาในรูปวีดิทัศน์ บทสัมภาษณ์ของประชาชนทุกกลุ่มชนชั้นที่นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน จนนำพาซึ่งความสำเร็งในชีวิตที่ดีขึ้น

2. สวนเฉลิมพระเกียรติ

ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงห่วงใย และทรงตระหนักถึงความเดือดร้อนของอาณาประชาราษฎร์ของพระองค์เสมอมา จึงได้ทรงพระราชทานความรู้และแนวพระราชดำริด้านการเกษตร อันเป็นประโยชน์ยิ่งต่อเกษตรกรที่เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของประเทศไทยมาช้านาน โดยได้ทรงก่อตั้งโครงการในพระราชดำริมากมายนับจำนวนกว่า 2 พันโครงการ เพื่อส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยนับล้านครัวเรือน

สวนเฉลิมพระเกียรติ ฯ ประกอบด้วย “สวนนานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ” ที่จัดแสดงโดยรัฐบาลนานาชาติ รวม 30 สวน
และสวนเฉลิมพระเกียรติฯ ประเภทองค์กร ที่จัดแสดงโดย องค์กรภาครัฐและเอกชน รวมทั้งรัฐวิสาหกิจภายในประเทศ รวม 80 สวน



สวนนานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ

พื้นที่จัดแสดงในส่วนนี้ จะประกอบด้วย การจัดสวนไม้ดอกไม้ประดับและพืชสวน อันสะท้อนถึงศิลปะวัฒนธรรม
ที่หลากหลาย จากนานาประเทศ รวมกว่า 30 ประเทศ ซึ่งร่วมเฉลิมพระเกียรติฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โดยใช้พื้นที่ประเทศละ 200-500 ตารางเมตร โดยมีแนวคิดหลักในการจัดสวนที่สะท้อนถึงภูมิหลังเชิงประวัติศาสตร์
วัฒนธรรม ความสัมพันธ์ ระหว่างประเทศ และสภาพชีวิตของประชาชนในประเทศนั้น ๆ รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างพระราชวงศ์ สำหรับประเทศปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขด้วย


สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ประเภทองค์กร
สวนเฉลิมพระเกียรติฯ แนวใหม่ที่รวบรวมทฤษฎีการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กว่า 80 ทฤษฎี นำเสนอพร้อมกันในรูปแบบของการจัดสวน องค์กรภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย

ผู้เข้าชมงาน จะได้เห็นถึงพระอัฉริยภาพ ของในหลวงที่ทรงคิดค้นทฤษฎีต่าง ๆ ด้านการเกษตรเพื่อ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของเกษตรกร และคนไทยทั้งชาติ เช่น ทฤษฎีกำแพงมีชีวิต หรือหญ้าแฝก ทฤษฎีการปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก ทฤษฎีป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ทฤษฎีเกษตรผสมผสาน ทฤษฎีอธรรมปราบอธรรม (ผักตบชวา) ทฤษฎีกังหันชัยพัฒนา เป็นต้น


สวนไทย หรือสวนพรรณไม้เขตร้อนชื้น Tropical Garden

ส่วนการแสดงของประเทศไทย ที่รวมรวมของดีของไทยในด้านพันธุ์ไม้ เทคโนโลยีด้านการเกษตรที่คิดค้นขึ้นโดยภูมิปัญญาไทย เพื่อนำเสนอต่อสายตานานาชาติ บนพื้นที่ขนาด 80 ไร่ ซึ่งประกอบด้วย สวนไม้ผล สวนผัก สวนสมุนไพร สวนไม้น้ำ สวนบอนไซ ไม้ดัด อาคารเรือนกระจกปรับอุณหภูมิ สวนต้นไม้ประจำจังหวัด สวนไม้ในวรรณคดี สวนต้นไม้ในพุทธประวัติ พืชพรรณไม้หายาก พันธุ์ไม้แปลก
เป็นต้น นอกจากนั้น ยังจะมีส่วนการแสดงทฤษฎีการเกษตรแบบยั่งยืน สวนไม้ตัดดอกขนาดใหญ่ที่มีสีสันสวยงามผลัดเปลี่ยนตลอด 92 วันของการจัดงาน


ส่วนจัดแสดงกลาง Expo Plaza
เป็นที่ตั้งของ หอคำหลวง อาคารประธานของ งานพืชสวนโลก 2549 สร้างขึ้นโดยสถาปัตยกรรมล้านนาอย่างวิจิตรบรรจง ภายในอาคารจะจัดแสดงนิทรรศการพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ด้านการเกษตร นิทรรศการโครงการหลวงต่าง ๆ สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตของพสกนิกรชาวไทย ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่าง ๆ จนทำให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่สุขสบายยิ่งขึ้น จึงเปรียบเสมือนผู้ที่ตกอยู่ในความมืด และกลับได้มีโอกาสพบแสงสว่างแห่งชีวิตอีกครั้งด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ

อาคารนิทรรศการหมุนเวียน ขนาดใหญ่ พื้นที่รวมกว่า 10,000 ตารางเมตร อาคารจำหน่ายสินค้า OTOP ตลาดไม้ดอกไม้ประดับ ภัตตาคาร ศูนย์อาหาร ศูนย์บริการผู้เข้าชมงาน ศูนย์บริการธุรกิจ และศูนย์สื่อมวลชน ซึ่งผู้เข้าชมงานจะได้รับความสะดวกสบายในมาตรฐานการจัดงานระดับโลก

นอกจากความรู้และความเพลิดเพลินที่ผู้เข้าชมงานจะได้รับจากสวนและนิทรรศการต่าง ๆ แล้ว ลานราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นลานกิจกรรมกลางแจ้งที่แวดล้อมด้วยต้นราชพฤกษ์ AMPHITHEATRE ทั้ง 2 แห่ง และทั่วทั้งบริเวณ 470 ไร่ของการจัดงาน ยังจะมีการแสดง ดนตรี ศิลปวัฒนธรรม งานรื่นเริง การแสดงพื้นบ้าน (Street Performance) ขบวนพาเหรดทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ รวมกว่า 800 รายการใน 92 วัน ซึ่งความสมบูรณ์แบบของ งานพืชสวนโลก 2549 นี้ จะทำให้การเดินทางไปเชียงใหม่ ในช่วงปลายปี 2549 ของคนไทยแตกต่างกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และจะเป็นเพียงครั้งเดียวในชั่วชีวิตเท่านั้น


มหัศจรรย์แห่งล้านนา
สำหรับผู้ที่หลงใหลในพืชพรรณไม้ กลุ่มจังหวัดของอาณาจักรล้านนา จะมอบความตื่นตาตื่นใจที่ไม่รู้ลืม ด้วยสวนพฤกษศาสตร์ สวนพรรณไม้ที่หลากหลาย เพื่อให้การเดินทางมาเยี่ยมชม งานพืชสวนโลก 2549 มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

   
32 ประเทศร่วมสร้างมหัศจรรย์พรรณไม้สวนเฉลิมพระเกียรติฯ จาก 5 ทวีป

 จากวันที่ประเทศไทยได้มีหนังสือเชิญไปถึงนานาประเทศทั่วโลก โดยผ่านช่องทางการทูต เชิญมาร่วมจัดสวนนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ (International Garden) ในงาน “มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549” มิตรประเทศจำนวนมากก็ได้แสดงความจำนงต้องการเข้าร่วมเฉลิม พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสที่พระองค์จะทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีในปีนี้ และจะทรงเจริญพระชนม พรรษา 80 พรรษาในปีหน้า

งานระดับ A1
ไทยเป็นชาติแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ต่างชาติต้องเข้าร่วมในระดับรัฐบาล

“ราชพฤกษ์ 2549” เป็นงานที่วงการมหกรรมโลกเรียกว่างานระดับ A1 ซึ่งเป็นสถานภาพที่ต้องได้รับการยอมรับและการรับรองจากสถาบันมหกรรมโลก (BIE) และสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH) โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการรับรองนี้ (เป็นประเทศที่ 3 ในเอเชีย ต่อจากญี่ปุ่นและจีน) ซึ่งคุณสมบัติของงานที่จะได้รับการยอมรับในระดับนี้คือ ต้องจัดบนพื้นที่ขนาดไม่ต่ำกว่า 290 ไร่ และมีระยะเวลาการจัดงานไม่น้อยกว่า 3 เดือน นอกจากนั้น เมื่อจัดแล้ว ต้องรอไปอีก 10 ปีจึงจะจัดได้อีกครั้ง และที่สำคัญ ต้องมีต่างประเทศเข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 10 ประเทศ โดยแต่ละประเทศที่จะเข้าร่วมนั้น ต้องได้รับเชิญจากประเทศไทย และต้องได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมจากรัฐบาลตนเท่านั้น โดยในหลายๆ ประเทศต้องได้รับการอนุมัติในระดับคณะรัฐมนตรีเลยทีเดียว

32 ประเทศ
พร้อมโชว์ศักยภาพจัดสวนให้สมศักดิ์ศรี
ณ วันนี้ ประเทศไทยได้รับการยืนยันเข้าร่วมงานอย่างเป็นทางการแล้วจาก 32 รัฐบาลประเทศจาก 5 ทวีป ได้แก่ ทวีปยุโรป อเมริกา กลาง อเมริกาใต้ แอฟริกา และเอเชีย ดังรายนามประเทศต่อไปนี้ • ญี่ปุ่น • เกาหลีใต้ • เวียดนาม • มาเลเชีย • กัมพูชา • ลาว • อินโดนีเชีย • อินเดีย • เนปาล • ภูฏาน • ปากีสถาน • จีน • บรูไน • ตุรกี • สเปน • เบลเยี่ยม • เนเธอร์แลนด์ • บัลกาเรีย • มอริเตเนีย • เคนย่า • ไนจีเรีย • กาบอง • ซูดาน • โมร็อกโก • ตูนิเซีย • แอฟริกาใต้ • บุรุนดี • กาตาร์ • อิหร่าน • เยเมน • ตรินิแดดแอนด์โตเบโก • แคนาดา

แต่ละประเทศไม่เพียงแต่จะนำพืชพรรณไม้เด่นและศิลปะการจัดสวนประจำชาติมาสร้างสวนเฉลิมพระเกียรติฯบนพื้นที่อย่างน้อย 500 ตารางเมตรสำหรับแต่ละสวนเท่านั้น แต่ยังจะมาสร้างสิ่งก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ที่จะมอบความงดงาม ความยิ่งใหญ่ตระการตา และความโดดเด่นให้กับสวนของชาติตน โดยผู้จัดสวนจากหลายประเทศเป็นเจ้าของรางวัลด้านการจัดสวนมาแล้วจากหลายงาน และในงาน “ราชพฤกษ์ 2549” ยอดฝีมือด้านการจัดสวนของแต่ละชาติก็จะมาประชันกันเพื่อศักดิ์ศรีประเทศตน

แบบสวนจากประเทศอินโดนีเซีย

สวนบาหลี กับ น้ำตกหลากสีจากอินโดฯ
สวนนานาชาติจากอินโดนีเซียเป็นสวนสไตล์บาหลีที่จะต้อนรับผู้ชมด้วยน้ำตกหลากสีที่ ขนาบสองข้างทางนำไปสู่ประตูทางเข้าสวนที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากอารยธรรมแถบชวา ประกอบด้วยอาคารสไตล์ต่างๆ จากภาคต่างๆ ของอินโดนีเซีย และบ่อน้ำสวยซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญองค์ประกอบหนึ่งของสวนสไตล์นี้


 

สวนแห่งความโชคดี จากญี่ปุ่น
สวนจากประเทศญี่ปุ่น จะถูกสร้างด้วยความตั้งใจที่จะเฉลิมฉลองและถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่บ่อน้ำแบบญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึงมหาสมุทร ที่นอกจากจะมีปลาคาร์ฟแหวกว่ายแล้ว ยังมีเกาะคะเมะชิมะ (เต่า) และ เกาะซึรุชิมะ (นกกระเรียน) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งอายุที่ยืนยาวและความโชคดี พร้อมการจำลองสัญลักษณ์เด่นๆ ของญี่ปุ่นมาไว้ในสวน เช่นภูเขาไฟฟูจีสูง 3 เมตร หาดทรายสุฮะมะ หุบเขาหมอกคิริทะนิ ศาลาพักผ่อนอะซูมะยะ และปลูกต้นไม้มงคลไว้ในสวนเพื่อมอบความร่มรื่นให้ผู้ชมอีกด้วย
แบบแปลนแสดงนิทรรศการ
หินโอนิกซ์ตระหง่าน
กุหลาบบานในสวนปากีฯ
ผู้ที่หลงใหลในกุหลาบ คงจะชื่นชอบสวนปากีสถาน ที่จะปูพื้นสวนด้วยดอกกุหลาบสีสด เป็นภาพเบื้องหลังอันสวยงามให้กับรูปหล่อม้าสัมฤทธิ์ที่ปากทางเข้าสวน เมื่อมองตรงเข้าไป จะเห็นน้ำพุหินตั้งตระหง่านอยู่กลางสวน และเมื่อมองผ่านน้ำพุเข้าไปจะเห็นอาคารสไตล์ปากีสถานที่สร้างจากหินโอนิกซ์ (Onyx) ซึ่ง เป็นหินที่พบได้ในปากีสถานเพียงที่เดียว
แบบสวนจากประเทศปากีสถาน
ภาพจำลองสวนเนเธอร์แลนด์

สวนเนเธอร์แลนด์
ทิวลิปหลากสีสัน
กังหันท้าลม
เมื่อคิดถึงฮอลล์แลนด์ คงไม่มีใครไม่คิดถึงกังหันลมและดอกทิวลิป และสำหรับผู้ที่ไม่เคยเห็นทุ่งดอกทิวลิปกับตาตนเอง ในงาน “ราชพฤกษ์ 2549” คุณจะได้เห็นดอกทิวลิปหลากสีปูพื้นสวนเนเธอร์แลนด์ ที่เมื่อมองตามดอกทิวลิปขึ้นไป คุณจะได้เห็นโปสการ์ดขนาดยักษ์ เขียนว่า “Greetings from Holland” ซึ่งมีกังหันลมจากฮอลล์แลนด์สูง 6 เมตร (ความสูงเมื่อวัดจากปลายใบพัดกังหันคือ 10 เมตร) นอกจากดอกทิวลิปแล้ว ยังมีดอกไม้ต้นไม้นานาพันธุ์อีกทั้งยังมีรองเท้าไม้ขนาดยักษ์ตั้งอยู่หน้าสวนให้คุณได้ใช้เป็นฉากถ่ายรูปเป็น ที่ระลึก

แบบสวนจากประเทศกาตาร์

สวนกาต้าร์ เมื่อทะเลและทะเลทรายมาบรรจบ
ผู้ที่คิดว่าไม่มีน้ำทะเลในเชียงใหม่คงต้องคิดใหม่ เพราะในงาน “ราชพฤกษ์ 2549” ประเทศกาต้าร์จะขนน้ำทะเลมาไว้ในสวนแบบทะเลทรายติดทะเล โดยออกแบบพื้นที่สวนทะเลทรายให้มีรูปร่างเดียวกับรูปร่างของแผนที่ประเทศกาต้าร์ พร้อมสร้างกระโจมสีขาวให้ ผู้ชมได้เข้าไปเดินผ่อนคลายกับผืนน้ำทะเล ในสวนที่กาตาร์ตั้งใจมอบให้เป็นของขวัญแก่ประเทศไทย


 

พื้นที่จัดสวน
ถูกจองหมดต้องขยายเฟสต่อไปสวนในอาคาร
เดิมผู้จัดงานจัดสรรพื้นที่จัดสวนนานาชาติไว้ที่ 15,500 ตารางเมตร ซึ่งได้ถูกจองหมดไปในระยะเวลาอันสั้น และยังมีการแสดงความจำนงต้องการร่วมจัดสวนภายนอกอาคารอย่างเนืองแน่น กระทั่งต้องหาพื้นที่เพิ่มเติมขยายไปอีกหลายพันตารางเมตร และต้องขยับพื้นที่ จัดสวนเข้าไปในอาคารสำหรับสวนที่ไม่เน้น การปลูกสิ่งก่อสร้างแต่เน้นความโดดเด่นของพืชพันธุ์และการตกแต่งที่สะท้อนวัฒนธรรม โดยบางประเทศเช่น ญี่ปุ่น ตุรกี และเคนย่า ซึ่งมีพื้นที่จัดสวนนอกอาคารอยู่แล้ว แสดงความจำนงเข้ามาจัดสวนในอาคารด้วย ผู้ชมสวนในอาคารจะได้ชมดอกไม้และพืชพันธุ์หลากหลาย ที่นำตรงเข้ามาจากต่างประเทศ

ชมเต้นฟลามิงโก้ หรือเรียนพิธีชงชา
พบการแสดงจากประเทศนานาในงาน “ราชพฤกษ์ 2549”
นอกจากจะมอบสีสันของดอกไม้ให้กับงาน ประเทศต่างๆ ยังจะมอบสีสันของการแสดง ทางศิลปวัฒนธรรมให้กับ “ราชพฤกษ์ 2549” อีกด้วย ในบริเวณลานกิจกรรมกลางแจ้งของงาน ผู้ชมจะได้สนุกสนานกับการแสดง อาทิ การเต้นฟลามิงโก้จากสเปน การแสดงฉลอง วันชาติของมอริเตเนีย นอกจากนั้น คุณยังจะ ได้เห็นพิธีชงชาและการสาธิตการจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่นแท้ๆ นับว่าเป็นการเข้าถึงอารยธรรมโดยไม่ต้องเสียค่าเดินทาง

นานาชาติเตรียมเข้ม
ตั้งทีมรุดหน้าจัดสวนเฉลิมพระเกียรติฯ
การตอบรับอย่างดีของนานาประเทศ เป็นผลจากการสนับสนุนและการช่วยประสานงานของหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ, สถานเอกอัครราชทูตไทยทั่วโลก และสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ในประเทศไทย ซึ่งประเทศที่ได้ยืนยันเข้าร่วมงานแล้วหลายประเทศได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมงานเป็นอย่างมาก โดยจัดตั้งทีมงานเตรียมการจัดสวน และส่งทีมงานนั้นๆ เดินทางเข้ามาสำรวจพื้นที่และร่วมประชุมกับผู้จัดงานถึงรายละเอียดต่างๆ ในการเตรียมงานที่เชียงใหม่และที่กรุงเทพฯ ซึ่งสำนักงานผู้บริหารงานปฏิบัติการกิจกรรม และประชาสัมพันธ์ โครงการงาน “ราชพฤกษ์ 2549” ได้ต้อนรับและนำเอกอัครราชทูตและทีมงานจัดสวนจากประเทศอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น กาต้าร์ สเปน ฯลฯ เข้าสำรวจพื้นที่ก่อสร้างงาน และร่วมประชุม และติดต่อประสานงานกันทุกวัน เพื่อให้มั่นใจว่าการเตรียมงานเป็นไปอย่างราบรื่นและสวนที่จะจัดขึ้นมาจะสวยงามสมศักดิ์ศรีประเทศที่สุด

................................................................................

ปฎิทินและกิจกรรม

วันที่ กิจกรรมการแสดง
1 - 12 พ.ย.49 พิธีเปิดงาน มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ
การจัดงาน มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับนานาชาติ
8 พ.ย.49 งานเทศกาลลอยกระทง
11 - 19 พ.ย.49 มหกรรมการแสดงพรรณพืช ผัก ผลไม้ และเห็ด
18 - 26 พ.ย.49 การจัดแสดงพรรณพืช ประเภทไม้น้ำ
25 พ.ย. - 3 ธ.ค.49 ผลไม้เขตร้อน และพรรณพืชประเภทกล้วย
2 - 5 ธ.ค.49 การจัดแสดงพรรณไม้ดอกสีเหลือง และไม้ประดับ
5 ธ.ค.49 วันเฉลิมพระชนม์พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวามหาราช
9 - 17 ธ.ค.49 การจัดแสดงพรรณไม้ ประเภทบอนไซ เฟิร์น ไม้บวบน้ำ และปาล์ม
16 - 24 ธ.ค.49 การจัดแสดงพรรณไม้กลิ่นหอม ไม้ใบ และไม้ตัดใบ
23 - 31 ธ.ค.49 การจัดแสดงไม้กระถาง
30 ธ.ค.49 - 14 ม.ค.50 การจัดแสดงกล้วยไม้
31 ธ.ค.49 - 1 ม.ค.50 นับถอยหลังวันส่งท้ายปีเก่า - ต้อนรับปีใหม่
13 - 21 ม.ค.49 การจัดแสดงไม้สมุนไพรและยา
20 - 28 ม.ค.50 การจัดแสดงพรรณไม้ดอกไม้ประดับเขตร้อน พิธีปิดงาน


 

บัตรเข้าชมงานราชพฤกษ์

บัตรเข้าชมงานราชพฤกษ์
2549 ราคา 30 – 200 บาท ซื้อล่วงหน้าได้รับส่วนลดทันที 50% เด็กสูงต่ำกว่า 100 เซนติเมตร เข้าฟรี!
มี 3 แบบ 6 ราคา เริ่มจำหน่ายเดือน สิงหาคม ณ ศูนย์จำหน่ายบัตรราชพฤกษ์ 425 แห่งทั่วประเทศ อัตราบัตรค่าเข้าชมงานสำหรับชาวต่างชาติเท่ากับอัตราบัตรเข้าชมงานสำหรับชาวไทย
ราคานี้ สำหรับซื้อบัตรล่วงหน้า

แบบเข้าชมงานครั้งเดียว: เด็ก/ผู้พิการ/ผู้สูงอายุมากกว่า 60ปีขึ้นไป 50 บาท ผู้ใหญ่ 100 บาท
แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง: เด็ก/ผู้พิการ/ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป 200 บาท ผู้ใหญ่ 400 บาท
แบบกลุ่ม 15 คนขึ้นไป: เด็ก/ผู้พิการ/ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป 30 บาท ผู้ใหญ่ 70 บาท
         

ศูนย์จำหน่ายบัตร 425 แห่งทั่วประเทศ

แบบเข้าชมงานครั้งเดียว ติดต่อซื้อที่:
สำหรับการเข้าชมงานแบบวันต่อวัน ราคาเริ่มต้นที่ 50 บาทสำหรับเด็กสูงไม่เกิน 140 ซม.
/ผู้สูงอายุ และ ราคา 100 สำหรับบุคคลทั่วไป
ผู้ใหญ่   ราคา 100 บาท
เด็กสูงไม่เกิน 140 เซ็นติเมตร /ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป /ผู้พิการ   ราคา 50 บาท


เงื่อนไขการจำหน่ายบัตร

  • บัตรทุกใบ มีการระบุวันเข้าชม
  • ท่านสามารถแก้ไขวันที่เข้าชมบนบัตรได้ไม่เกิน 3 ครั้ง ณ เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตร ธนาคารกรุงไทยสาขาที่จัดจำหน่ายบัตร
  • ทุกครั้งที่ท่านต้องการเปลี่ยนวันที่บนบัตร ท่านจะต้องระบุวันที่ท่านต้องการที่จะเปลี่ยน แล้วเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบปริมาณผู้เข้าชมในวันนั้นๆ ก่อนที่จะดำเนินการรับการเปลี่ยนวัน
  • หากในวันที่ท่านประสงค์ซื้อหรือเปลี่ยนวัน เป็นวันที่มีความหนาแน่นของผู้เข้าชมงานจำนวนมาก เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธในการจำหน่าย หรือ เปลี่ยนวันให้กับท่านซึ่งท่านจะต้องเลือกวันเดินทางใหม่
  • การเปลี่ยนวันที่เข้าชมจะต้องดำเนินการก่อนวันที่ล่าสุดที่ระบุบนบัตรไม่น้อยกว่า 1 วัน
    (เช่น บัตรวันที่ 1 พฤศจิกายน จะต้องดำเนินการเปลี่ยนภายในวันที่ 30 ตุลาคม)
  • ไม่จำกัดจำนวนซื้อต่อท่าน
สถานที่จำหน่ายบัตร
ประเภทเข้าชมงานครั้งเดียว
ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาในเขตกรุงเทพมหานคร และในเขตอำเภอเมืองทุกจังหวัดทั่วประเทศ และอำเภอหาดใหญ่ อำเภอหัวหิน และเมืองพัทยา
สอบถาม ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ ธนาคารกรุงไทย 1551
 
แบบไม่จำกัดจำนวนครั้งและแบบกลุ่ม ติดต่อซื้อที่:
 
บัตรที่ให้คุณสามารถเต็มอิ่มกับความตระการตาได้ตลอด 92 วัน ในราคาเดียวเอกสิทธิ์เฉพาะชื่อผู้ที่ระบุบนบัตร
 
 
สำหรับผู้ใหญ
ราคา 400 บาท
  สำหรับเด็ก
เด็กสูงไม่เกิน 140 เซ็นติเมตร
ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป/ผู้พิการ
ราคา 200 บาท

เงื่อนไขการจำหน่ายบัตร

  • บัตรทุกจะต้องระบุชื่อผู้เข้าชม
  • ไม่มีการระบุวันเข้าชม ท่านสามารถเข้าชมงานไม่จำกัดจำนวนครั้ง ตลอด 92 วัน
  • บัตรประเภทไม่จำกัดจำนวนครั้งเป็นบัตรเฉพาะบุคคล
  • การเข้าชมท่านต้องแสดงบัตรพร้อมบัตรประชาชน หรือบัตรที่ราชการออกให้ ต่อเจ้าหน้าที่ ณ ประตูทางเข้า
สถานที่จำหน่ายบัตร
ประเภทเข้าชมงานไม่จำกัดจำนวนครั้ง / ประเภทหมู่คณะ
  • สำนักงานผู้แทนไทย ชั้น 1 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถนนราชดำเนินนอก
  • ศูนย์จำหน่ายบัตรชมงาน ราชพฤกษ์ 2549
    o ร้าน Direct 2U (24 สาขา) สาขาโรบินสันจันทบุรี, สาขาสีลม คอมเพล็กซ์, สาขาแฟชั่น ไอส์แลนด์, สาขาห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ รามคำแหง, สาขาเซ็นทรัล พระราม 2, สาขาเซ็นทรัล พลาซา แอร์พอร์ท (เชียงใหม่), สาขาห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางแค, สาขาชลบุรี, สาขาศูนย์การค้าซีคอน สแควร์, สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 3, สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, สาขาห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ, สาขาพัทยาเหนือ, สาขาพระราม 9, สาขาห้างสรรพสินค้าโรบินสัน หาดใหญ่, สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัล รัตนาธิเบศ, สาขาราชบุรี, สาขาภูเก็ต, สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, สาขาฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต, สาขาโรบินสัน รัชดาฯ, สาขาหัวหิน, สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว, สาขาเกาะสมุย
    o TV Direct Showcase (2 สาขา) สาขารามอินทรา (ซอยวัชรพล), สาขาแฟรี่ พลาซา
    o TV Direct Service Point (2 สาขา) สาขาเดอะมอลล์ นครราชสีมา, สาขาโรบินสัน จ.อุดรธานี
    o Welness สาขาซีคอนสแควร์

สอบถาม TV Direct Call Center 0 2509-0022

เงื่อนไขการจำหน่ายบัตร
เพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้เข้าชมงาน มหกรรมราชพฤกษ์ 2549 เปิดรับผู้เข้าชมงานเพียงวันละ 35,000 คนเท่านั้น
 
บัตรทุกใบจะออกโดยการระบุวันเข้าชม
   
ท่านสามารถเปลี่ยนวันเข้าชมได้ตามจำนวนครั้งที่กำหนด ณ เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตร (ยกเว้นบัตรอภินันทนาการ)
 
บัตรเข้าชมงานประเภทไม่จำกัดจำนวนครั้งจะต้องระบุชื่อผู้ซื้อบนบัตร
บัตรเข้าชมงานประเภทหมู่คณะ จะออกบัตรเพียง 1 ใบต่อคณะเท่านั้น
ท่านที่ซื้อบัตรล่วงหน้าจะได้รับส่วนลดพิเศษ 50 เปอร์เซ็นต์ทุกประเภท
   

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

  • ศูนย์บริการข้อมูลราชพฤกษ์ โทร 0 2686-7272
  • ศูนย์บริการท่องเที่ยวการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 1672
เวลาเปิด-ปิด เปิดให้เข้าชมงานได้ตั้งแต่เวลา 09.00 – 20.00 น.
 
ระยะเวลาจัดงาน 3 เดือน (92 วัน) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 – 31 มกราคม 2550
 
สถานที่ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวง ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
 
การเดินทาง ชมงานราชพฤกษ์
ระบบการขนส่งเพื่อบริการแขกผู้ชมงาน:
จากสนามบินเชียงใหม่สู่พื้นที่จัดงานต.แม่เหียะระยะทางประมาณ9-10กม.
จากตัวเมืองเชียงใหม่ สู่ สถานที่จัดงาน ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
งานราชพฤกษ์ 2549 ไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ส่วนบุคคลทุกชนิดเข้าสู่พื้นที่การจัดงาน แต่ได้มีการกำหนดจุดจอดรถภายนอกงาน พร้อมบริการรถรับ-ส่งฟรี (อยู่ระหว่างประสานงานจุด จอดรถบริเวณด้านนอกพื้นที่จัดงานเพื่อจัดบริการ Shuttle Bus เข้าสู่งาน)สำหรับผู้ที่ต้องการจะเดินทางโดยรถบริการสาธารณะ คุณสามารถเดินทางสู่งานได้อย่างสะดวกสบาย  ดังรายละเอียดต่อไปนี้
 
จากสนามกีฬาเชียงใหม่ 700 ปี / ศูนย์ราชการ / ลานจอดรถบริเวณสถานีรถไฟเชียงใหม่ มีบริการรถ Shuttle Bus รับ-ส่งฟรี (โดย ขสมก.) รถออกทุกๆ 10 นาที ใช้เวลาเดินทางสู่งานประมาณ 30 นาที
ตารางเดินรถโดยสารสองแถวสีแดง จำนวน 390 คัน
ของสหกรณ์นครลานนาเดินรถ จำกัด โทร. 084-1725859
  1. เจ.เจ. มาร์เก็ต (ฟรีค่าจอดรถ) เวลา 08.30-21.00 น. ค่าโดยสารคนละ 25 บาท
  2. ห้างเทสโก้โลตัส (คำเที่ยง) (ฟรีค่าจอดรถ)เวลา 08.30-21.00 น. ค่าโดยสารคนละ 25 บาท
  3. มีโชคพลาซ่า (ฟรีค่าจอดรถ) เวลา 08.30-21.00 น. ค่าโดยสารคนละ 25 บาท
  4. ห้างคาร์ฟูร์ (ฟรีค่าจอดรถ) เวลา 08.30-21.00 น. ค่าโดยสารคนละ 25 บาท
  5. ห้างแม็คโคร (ฟรีค่าจอดรถ)เวลา 08.30-21.00 น. ค่าโดยสารคนละ 25 บาท
  6. ห้างบิ๊กซี (ฟรีค่าจอดรถ)เวลา 08.30-21.00 น. ค่าโดยสารคนละ 25 บาท
  7. โกลบอลเฮาส์ (ฟรีค่าจอดรถ)เวลา 08.30-21.00 น. ค่าโดยสารคนละ 20 บาท
  8. ห้างเทสโก้โลตัส (หางดง) (ฟรีค่าจอดรถ)เวลา 08.30-21.00 น. ค่าโดยสารคนละ 20 บาท
  9. เซ็นทรัล แอร์พอร์ต พลาซ่า (ฟรีค่าจอดรถ)เวลา 08.30-21.00 น. ค่าโดยสารคนละ 20 บาท
  10. กาดเชิงดอย ค่าจอดรถ 20 บาท เวลา 08.30-21.00 น. ค่าโดยสารคนละ 25 บาท
  11. กาดสวนแก้ว ค่าจอดรถ 10 บาท เวลา 08.30-21.00 น. ค่าโดยสารคนละ 25 บาท
  12. บ้านหางแคว ค่าจอดรถ 20 บาท เวลา 08.30-21.00 น. ค่าโดยสารคนละ 20 บาท
  13. มหาวิทยาลัยนอร์ท (รถมหาวิทยาลัย ฟรีค่าจอดรถ) เวลา 08.30-21.00 น. ค่าโดยสารคนละ 15 บาท
  14. กาดฝรั่ง (ฟรีค่าจอดรด) เวลา 08.30-21.00 น.ค่าโดยสารคนละ 20 บาท
รถตู้โดยสารปรับอากาศ สถานีขนส่งช้างเผือก โทร. 0 5321 1577
แท็กซี่มิเตอร์ จะจอดให้บริการตามจุดสำคัญๆ เช่น สถานีขนส่งเชียงใหม่ สถานีรถไฟ สนามบินเชียงใหม่ ศูนย์การค้าใหญ่ๆ หรือสามารถโทรเรียกที่ ศูนย์แท็กซี่มิเตอร์ : 0 5327 9291 (คิดค่าบริการเพิ่มจากมิเตอร์อีก 40 บาท

...............................................................................

 

แผนผังงานราชพฤกษ์


ตรียมพร้อม 5 ขั้นตอน ก่อนเที่ยวงานราชพฤกษ์

จองที่พักเชียงใหม่ – จองตั๋วเดินทาง – ซื้อบัตรเข้าชมงาน
จัดโปรแกรมเดินทาง
เตรียมแพ็กกระเป๋า
วันเดินทาง
วันเข้าชมงาน

 

ขอขอบคุณที่มาของข้อมูล :  http://www.royalfloraexpo.com/thai/index.asp

 

Hotel Recommended

Krisadadoi Resort, Chiangmai กฤษดาดอย
Ban Klang Doi Hotel Resort & Spa บ้านกลางดอย
Four seasons
Mandarin Oriental
รอยัลปรินเซส เชียงใหม่
ตรีญาณรส
Tamarind Village Chiangmai Tamarind Village
 

----------------------------------------------------------

English

[ Thailand Tourist Information ]

Thai

[ Thai-Tour.Com ]

 

เกี่ยวกับเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว | การใช้เวปไซต์

TAT License
11/04452

บริษัท ไทยทัวร์ อินโฟ จำกัด
46/26 ถนนเจริญราษฏร์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120
Office: โทร. 02-1641001 – 7  แฟกซ์ 02-1641010
Email:
info@thai-tour.com 

 
All rights reserved by Thai-Tour.Com